ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของจีนในไตรมาส 3 ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ไตรมาส ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่า ราคาสินค้าและบริการจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แถลงการณ์จากบริษัทนีลสัน และ ศูนย์วิเคราะห์และติดตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของสำนักงานสถิติจีนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของจีนร่วงลงสู่ระดับ 104 จุดในไตรมาส 3 จากระดับ 109 จุดในไตรมาสก่อนหน้านี้
ผลสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคชาวจีน 3,500 คนทั่วประเทศระบุว่า สัดส่วนของผู้บริโภคที่คาดว่าราคาสินค้าจะปรับตัวสูงขึ้นอีกในปีหน้านั้นอยู่ที่ระดับ 76% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 70% ในไตรมาสก่อนหน้านี้ โดยความวิตกกังวลต่อภาวะเงินเฟ้อเป็นปัจจัยสำคัญประการแรกที่มีผลต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเขตชนบท
"กระแสคาดการณ์ถึงการดีดตัวของภาวะเงินเฟ้อในกลุ่มผู้บริโภคส่งผลกระทบต่อความต้องการจับจ่ายใช้สอย ซึ่งความวิตกกังวลเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นของราคาสินค้านั้นมีสาเหตุหลักมาจากราคาอาหารที่แพงขึ้น"ด้านนายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า ของจีนกล่าววานนี้ว่า คณะรัฐมนตรีจีนกำลังร่างมาตรการควบคุมการขึ้นราคาสินค้าที่รวดเร็ว หลังจากที่เงินเฟ้อพุ่งแตะระดับ 4.4% ในเดือนที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี ขณะที่หนังสือพิมพ์ไชน่า ซีเคียวริตี้ส์ เจอร์นัล รายงานวานนี้ว่า คณะกรรมาธิการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีนอาจกำหนดเพดานควบคุมราคาอาหารและจ่ายเงินอุดหนุนเพิ่มอีกทางหนึ่ง
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า ราคาอาหารในเดือนต.ค.ถีบตัวสูงขึ้น 10.1% จากปีก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี ขณะที่ราคาผักสดทะยานขึ้น 18% จากปีที่ผ่านมา
เหยา เจียน โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนกล่าวว่า ราคาอาหารที่แพงขึ้นมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย อาทิ อุปสงค์ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ต้นทุนด้านการขนส่งที่สูงขึ้น ปัญหาภัยธรรมชาติ รวมไปถึงราคาอาหารประเภทธัญพืชและน้ำมันพืชในตลาดโลกที่แพงขึ้น