ผลสำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ ซึ่งจัดทำโดยสมาคมเศรษฐศาสตร์ธุรกิจแห่งชาติของสหรัฐ (NABE) บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง แต่อัตราการฟื้นตัวยังคงชะลอลง เนื่องจากอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูงและภาระหนี้ที่หนักหน่วง
ผลสำรวจของ NABE ระบุว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวในอัตรา 2.7% ในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า จะขยายตัวเพียง 2.6% ส่วนเศรษฐกิจในปี 2554 คาดว่า จะขยายตัวราว 2.6%
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่กล่าวว่า แม้ความเป็นไปได้ที่ว่าสหรัฐจะเผชิญกับภาวะ stagflation (ภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัวลงแต่มีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น) และภาวะถดถอยนั้น มีต่ำมาก แต่อัตราว่างงานและตัวเลขหนี้สาธารณะที่อยู่ในระดับสูงก็อาจเป็นปัจจัยที่ขัดขวางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ที่ตอบรับการสำรวจโดย NABE คาดว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคยังคงขยายตัวปานกลาง ส่วนยอดค้าปลีกในช่วงเทศกาลวันหยุดปีนี้นั้น คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.5% จากปีที่แล้ว และคาดว่ากลุ่มนายจ้างทั่วประเทศจะเพิ่มการจ้างงานโดยเฉลี่ยไม่ถึง 150,000 ตำแหน่งต่อเดือน ก่อนที่ตัวเลขดังกล่าวจะดีดตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า พร้อมกับคาดการณ์ว่า อัตราว่างงานในสหรัฐจะยังคงอยู่ที่ระดับ 9.5% หรืออาจจะสูงกว่าไปจนถึงช่วงต้นปีหน้า ก่อนที่ตัวเลขดังกล่าวจะขยับลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 9.2% ภายในปลายปีหน้า
ส่วนแนวโน้มในตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐยังคงซบเซา โดยนักวิเคราะห์ได้ปรับลดคาดการณ์ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านใหม่ในปีนี้ลงเหลือ 720,000 หลังจาก จากเดิมที่คาดการณ์ว่า จะอยู่ที่ 750,000 หลัง
อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจบ่งชี้ว่า นักวิเคราะห์มีมุมมองที่เป็นบวกต่อตัวเลขการใช้จ่ายในภาคเอกชนของสหรัฐ โดยคาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะขยายตัว 1.8% ในปี 2554 ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะหดตัวลง 0.2%
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ในโพลล์ NABE คาดว่า อัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rate) ของสหรัฐจะอยู่ใกล้ระดับ 0% ไปจนถึงปลายปีหน้า และคาดว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของรัฐบาลสหรัฐจะอยู่ที่ 3.25% ภายในปลายปีหน้า จากเดิมที่คาดว่าจะอยู่ที่ 3.75%
ทั้งนี้ NABE ได้สำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ในระหว่างวันที่ 21 ต.ค.จนถึงวันที่ 4 พ.ย.