กระทรวงการวางแผนและการลงทุนของเวียดนาม คาดว่า การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ของเวียดนามในช่วง 11 เดือนของปีนี้จะอยู่ที่ 1.33 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลง 40% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
โดยรายงานของกระทรวงฯ ระบุว่า รัฐบาลเวียดนามอนุมัติโครงการใหม่ทั้งสิ้น 833 โครงการในช่วง 11 เดือนแรกของปี คิดเป็นมูลค่า 1.21 หมื่นล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะได้รับเงินลงทุนเพิ่ม 1.2 พันล้านดอลลาร์จากโครงการที่มีอยู่เดิม
ส่วนในเดือนพฤศจิกายนเดือนเดียว รัฐบาลเวียดนามคาดว่าจะได้รับเม็ดเงิน FDI รวมทั้งสิ้น 512 ล้านดอลลาร์ จากโครงการใหม่ที่ได้รับอนุมัติ 74 โครงการ ในขณะที่มูลค่าเงินลงทุนที่เข้ามาดำเนินการจริง (FDI disbursement) ในช่วง 11 เดือนอยู่ที่ระดับ 9.95 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 9.9% จากปีก่อน
อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงฯ คาดว่า รัฐบาลเวียดนามอาจไม่บรรลุเป้าหมายการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศของปีนี้ ซึ่งตั้งเป้าไว้ที่จำนวน 2.2-2.5 หมื่นล้านดอลลาร์
ส่วนอันดับประเทศที่ลงทุนสูงสุดในเวียดนามในช่วง 11 เดือนแรกได้แก่ เนเธอร์แลนด์ เกาหลีใต้ และสหรัฐอเมริกา โดยมีเงินลงทุนในเวียดนามทั้งหมด 2.32, 2.28 และ 1.92 พันล้านดอลลาร์ ตามลำดับ
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมการผลิตแปรรูปยังเป็นอุตสาหกรรมที่นักลงทุนต่างชาติมาลงทุนในเวียดนามสูงสุด ตามมาด้วยการผลิตและให้บริการไฟฟ้า ก๊าซ และน้ำ และอสังหาริมทรัพย์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รัฐบาลเวียดนามได้ประสบกับภาวะหดตัวของเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศถึง 70% ในปี 2552 ลงมาอยู่ที่ 2.148 หมื่นล้านดอลลาร์ ในขณะที่มูลค่าเงินลงทุนที่เข้ามาดำเนินการจริง ลดลง 13% เมื่อเทียบกับปี 2551