หลัว ปิงเชิง รองประธานสมาคมเหล็กและเหล็กกล้าจีน (CISA) คาดว่า กำไรสุทธิของบริษัทผู้ผลิตเหล็กขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ทั้งหมดของจีนอาจอยู่ที่ระดับ 8 หมื่นล้านหยวนในปี 2553
นอกจากนี้ นายหลัว คาดการณ์เพิ่มเติมว่า ตัวเลขกำไรของเดือนพฤศจิกายนและเดือนธันวาคมของบริษัทผู้ผลิตเหล็กจีนจะยังคงอยู่ในระดับเดียวกับตัวเลขของเดือนกันยายนและตุลาคมปีนี้
ทั้งนี้ ข้อมูลสถิติของ CISA ระบุว่า บริษัทผู้ผลิตเหล็กขนาดใหญ่ 77 แห่ง มีกำไรสุทธิทั้งหมด 2.8, 3.8, 5.8 และ 7.0 พันล้านหยวนในเดือนกรกฎาคม สิงหาคม กันยายน และตุลาคม ตามลำดับ
-- ซอง หยู รองผู้จัดการทั่วไปตลาดทองคำเซี่ยงไฮ้ กล่าวว่า ตลาดทองคำ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของตลาดการเงินของจีน ได้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รวมทั้งมีแนวโน้มที่สดใสในอนาคต โดยผลผลิตทองคำมีจำนวนเพิ่มขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และแตะระดับ 313.98 ตันในปี 2552 ส่งผลให้จีนกลายเป็นผู้ผลิตทองคำรายใหญ่สุดของโลกเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน
ส่วนในมุมมองของนักลงทุนชาวจีนนั้น ทองคำนับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลงทุนที่สำคัญ นับตั้งแต่ที่ทองคำนั้นขึ้นอยู่กับผลตอบแทนจากหุ้นอสังหาริมทรัพย์ และพันธบัตร การลงทุนในตลาดทองคำจึงช่วยป้องกันความเสี่ยงและช่วยให้พอร์ทการลงทุนของนักลงทุนมีการกระจายความเสี่ยงที่ดีขึ้น
-- สำนักงานคลังสำรองของรัฐบาลจีน (SRB) ได้เปิดประมูลขายแท่งอลูมิเนียมจากสต็อกสินค้าของรัฐบาลจำนวน 117,672 ตัน เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมีช่วงราคาเสนอซื้อต่ำสุดและสูงสุดอยู่ระหว่าง 15,150-16,000 หยวนต่อตัน และราคาเสนอซื้อเฉลี่ยเท่ากับ 15,395 หยวน/ตัน
ทั้งนี้ SRB เป็นสถาบันที่อยู่ภายใต้คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ โดย SRB ได้ขายอลูมิเนียมจำนวน 95,767 ตัน ที่รคาเฉลี่ยที่ 15,343 หยวนต่อตันเมื่อวันที่ 2 พ.ย.
-- เว็บไซต์ Umetal ซึ่งรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเหล็ก คาดว่า ปริมาณผลผลิตเหล็กดิบของจีนอาจจะอยู่ที่ระดับ 650 ล้านตันในปี 2554 เนื่องจากการเพิ่มความสามารถในการผลิตภายใต้นโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ซึ่งเป็นช่วงที่จีนประสบกับภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ
ส่วนนายหลัว ปิงเชิง รองนายกสมาคมเหล็กและเหล็กกล้าจีน (CISA) คาดว่า ปริมาณผลผลิตเหล็กดิบของจีนอาจแตะ 624 ล้านตันในปีนี้
การคาดการณ์ของทั้งสองฝ่ายบ่งชี้ว่า การเติบโตของเหล็กดิบจะชะลอตัวลงในปี 2554
-- เศรษฐกิจจีนได้ชะลอการเติบโตลงหลังจากที่รัฐบาลใช้มาตรการเพื่อบรรลุเป้าหมายในการประหยัดพลังงานและลดการปลดปล่อยมลภาวะตามแผนพัฒนา 5 ฉบับที่ 11 (2548-2553)
โดยรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่า อัตราการเติบโตของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวณรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปรับตัวลดลงจาก 11.9% ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 ลงสู่ระดับ 10.3% ในไตรมาสที่ 2 และเหลือเพียง 9.6% ในไตรมาสที่ 3 โดยตัวเลขจีดีพีที่ลดลงนั้น มีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากฐานตัวเลขที่สูงของช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว และส่วนหนึ่งมาจากมาตรการประหยัดพลังงานและลดมลภาวะของรัฐบาล
-- บริษัทซิโนเปคได้ลงนามในสัญญาความร่วมมือทางกลยุทธ์กับซัพพลายเออร์เกี่ยวกับถ่านหิน เหล็ก และอุปกรณ์การผลิต ในประเทศจำนวน 22 ราย เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
โดยบริษัททั้ง 22 แห่งดังกล่าวประกอบไปด้วย เชิงหัว กรุ๊ป, ไชน่า เนชั่นแนล โคล กรุ๊ป, เป๋าสตีล, อังชาน ไอรอน แอนด์ สตีล, วูหาน ไอรอน แอนด์ สตีล, เทียนจิน ไอรอน แอนด์ สตีล, ไชน่า เฟิร์สท์ เฮฟวี่ อินดัสตรีส์, ไชน่า แนชั่นแนล แอร์ซง กรุ๊ป และเฉินหยาง โบลเวอร์ เวิร์คส์ กรุ๊ป
-- แหล่งข่าวจากรัฐบาลท้องถิ่นรายงานว่า เจ้าหน้าที่เมืองซูโจวในมณฑลหูหนานทางภาคกลางของจีนได้มีคำสั่งปิดโรงงานผลิตโลหะหนัก 3 แห่ง ซึ่งรวมถึงโรงงานของซูโจว ซินเชง นอนเฟอร์รัส เมทัล เพื่ออนุรักษ์แหล่งทรัพยากรน้ำ สำนักข่าวซินหัวรายงาน