นายเหลียน ปิง นักวิเคราะห์จากแบงค์ ออฟ คอมมูนิเคชันส์ คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีนจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เพราะเพิ่งประกาศเพิ่มเพดานการกันสำรองสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
"ผมคาดว่าธนาคารกลางจีนจะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ เพราะเพิ่งประกาศเพิ่มเพดานการกันสำรองธนาคารพาณิชย์ไปเมื่อวันศุกร์ แต่มีความเป็นไปได้ว่าธนาคารกลางจีนจะประกาศขึ้นดอกเบี้ยในช่วงต้นปี 2554 เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ย.พุ่งขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 28 เดือน" นายเหลียนกล่าวขณะที่นักวิเคราะห์คนอื่นๆคาดว่า ธนาคารกลางจีนจะประกาศเพิ่มเพดานการกันสำรองสภาพคล่องอีกในช่วงก่อนปลายปี 2553 แทนการปรับขึ้นดอกเบี้ย เพราะการขึ้นดอกเบี้ยจะส่งผลให้มีกระแสเงินทุนไหลเข้าสู่ประเทศจีนจำนวนมาก เนื่องจากนักลงทุนต้องการเก็งกำไรในส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยของจีนและสหรัฐ
นายหลิว กีหยวน นักวิเคราะห์จากบริษัท กีลู่ ซิเคียวริตีส์กล่าวว่า การประกาศเพิ่มเพดานกันสำรองสภาพคล่องครั้งล่าสุดจะสามารถดูดซับสภาพคล่องส่วนเกินออกจากระบบธนาคารจีนได้มากถึง 3 แสนล้านหยวน และยังสะท้อนให้เห็นว่าตัวเลขเงินเฟ้อของจีนพุ่งขึ้นถึงจุดที่เป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ธนาคารกลางจีนประกาศเพิ่มเพดานการกันสำรองสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์อีก 0.5% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคมเป็นต้นไป ซึ่งเป็นการประกาศเพิ่มเพดานกันสำรองครั้งที่ 6 ในปีนี้ เพื่อควบคุมเงินเฟ้อและผลกระทบที่เกิดจากการปล่อยเงินกู้จำนวนมากของธนาคารพาณิชย์ โดยยอดการปล่อยเงินกู้ใหม่ของธนาคารพาณิชย์ในประเทศประจำเดือนพ.ย.ปีนี้อยู่ที่ระดับ 5.64 แสนล้านหยวน สูงกว่าระดับของเดือนพ.ย.ปีที่แล้วที่ 2.692 แสนล้านหยวน
รายงานระบุว่า มาตรการครั้งล่าสุดของธนาคารกลางจีนจะส่งผลให้เพดานการกันสำรองสภาพคล่องของสถาบันการเงินขนาดใหญ่ของจีนพุ่งขึ้นเป็น 18.5% ขณะที่เพดานกันสำรองสภาพคล่องของสถาบันการเงินขนาดเล็กและขนาดกลางเพิ่มขึ้นเป็น 15.0%