ที่ประชุมเศรษฐกิจประจำปีของจีนออกแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า จีนจะยกระดับและปรับปรุงกฎข้อบังคับด้านเศรษฐกิจมหภาค เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพและแข็งแกร่งในปีหน้า
แถลงการณ์ของที่ประชุมระบุว่า กฎข้อบังคับด้านเศรษฐกิจมหภาคในปีหน้าจะเป็นการดำเนินการแบบเชิงรุก มีเสถียรภาพ รอบคอบ และมีความยืดหยุ่น โดยจะมุ่งเน้นในเรื่องการสร้างสมดุลของนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจให้มีเสถียรภาพและเติบโตอย่างรวดเร็ว การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ และการรับมือกับการคาดการณ์เงินเฟ้อ
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นดัชนีวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ พุ่งขึ้น 5.1% ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 28 เดือน
NBS ระบุว่า ดัชนี CPI เดือนพ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนต.ค.ที่ขยายตัว 4.4% โดยราคาอาหารที่พุ่งขึ้น 11.7% เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ดัชนี CPI สูงขึ้น เนื่องจากราคาอาหารมีสัดส่วนสูงถึง 1 ใน 3 ในการคำนวณน้ำหนักดัชนี CPI ของจีน
คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) คาดการณ์ว่า อัตราการขยายตัวของดัชนี CPI จะชะลอตัวลงต่ำกว่าระดับ 5% เนื่องจากมาตรการควบคุมราคาสินค้าของรัฐบาลเริ่มเห็นผล
-- ธนาคารกลางจีนประกาศเพิ่มเพดานกันสำรองสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์อีก 0.5% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค.เป็นต้นไป ซึ่งเป็นการประกาศเพิ่มเพดานกันสำรองครั้งที่ 3 ในเดือนนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะควบคุมการปล่อยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
ข้อมูลของธนาคารกลางจีนบ่งชี้ว่า ยอดการปล่อยเงินกู้ใหม่ในเดือนพ.ย.มีอยู่สูงถึง 5.64 แสนล้านหยวน (8.545 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งบ่งชี้ว่ายอดการปล่อยเงินกู้ใหม่ตลอดปี 2553 อาจสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางที่ระดับ 7.5 ล้านล้านดอลลาร์
-- มูลค่าการค้าระหว่างประเทศของจีนขยายตัวแข็งแกร่งในเดือนพ.ย. เพราะได้แรงหนุนจากความต้องการที่สูงขึ้นก่อนช่วงเทศกาลจับจ่ายใช้สอยในวันคริสต์มาส ขณะที่ยอดเกินดุลการค้าของจีนปรับตัวลดลง
สำนังานศุลกากรจีน (GAC) เปิดเผยว่า ยอดการส่งออกของจีนขยายตัว 34.9% ต่อปีในเดือนพ.ย. แตะระดับ 1.5333 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดการนำเข้าเพิ่มขึ้น 37.7% แตะที่ 1.3043 แสนล้านดอลลาร์
ส่วนยอดขาดดุลการค้าเดือนพ.ย.ของจีนลดลงมาอยู่ที่ระดับ 2.289 หมื่นล้านดอลลาร์ จากเดือนต.ค.ที่ 2.71 หมื่นล้านดอลลาร์
-- กระทรวงการคลังจีนเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า รายได้ด้านการคลังของจีนขยายตัว 16.1% ในเดือนพ.ย. แตะระดับ 5.8407 แสนล้านหยวน (8.77 หมื่นล้านดอลลาร์) ส่งผลให้รายได้การคลังโดยรวมในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 7.67 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้น 21.1% จากปีที่แล้ว เนื่องจากจีนประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า ภาษีซื้อรถยนต์ ขณะที่ยอดการนำเข้าและยอดขายรถยนต์ปรับตัวสูงขึ้น
ส่วนตัวเลขการใช้จ่ายด้านการคลังในเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 66.9%ต่อปี แตะที่ 1.06 ล้านล้านหยวน ขณะที่ตัวเลขการใช้จ่ายด้านการคลังในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ พุ่งขึ้น 27.3% แตะที่ 7.16 ล้านล้านหยวน
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า อัตราการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของจีนเพิ่มขึ้น 24.9% แตะระดับ 21.07 ล้านล้านหยวน (3.19 ล้านล้านดอลลาร์) ในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งขยายตัวขึ้น 0.5% จากช่วง 10 เดือนแรก
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย.ของจีนขยายตัวอย่างรวดเร็วที่ระดับ 13.3% จากเดือนต.ค.ที่ระดับ 13.1% ส่วนอัตราการขยายตัวของผลผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 15.8% ลดลง 0.3% จากช่วง 10 เดือนแรก
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.ของจีนขยายตัว 18.7% ต่อปี
นายเจิ้น ไหล่หยุน โฆษก NBS กล่าวว่า ยอดค้าปลีกสินค้าเพื่อผู้บริโภคในเดือนพ.ย.มีอยู่ทั้งสิ้น 1.39 ล้านล้านหยวน (2.081 แสนล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้น 0.1% จากเดือนต.ค. ส่วนยอดค้าปลีกสินค้าเพื่อผู้บริโภคโดยรวมในช่วงเดือนม.ค.-พ.ย.อยู่ที่ระดับ 13.92 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้น 18.4% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว สำนักข่าวซินหัวรายงาน