หยาว ซีปิง ผู้จัดการทั่วไปของบริษัท ไมน์เมทัลส์ เดเวลล็อปเมนท์ จำกัด เปิดเผยว่า อัตราการขยายตัวของผลผลิตเหล็กดิบของจีนมีแนวโน้มชะลอตัวในช่วงหลายปีข้างหน้า เนื่องจากรัฐบาลยังคงใช้นโยบายในการควบคุมด้านพลังงานในอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานเป็นจำนวนมาก พร้อมกับคาดการณ์ว่า เป้าหมายในการประหยัดพลังงานและการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงจะยังคงส่งผลกระทบต่อการผลิตเหล็กดิบในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า และผลผลิตในอุตสาหกรรมเหล็กก็อาจจะได้รับผลกระทบในปีต่อๆไป เนื่องจากรัฐบาลคุมเข้มนโยบายที่เกี่ยวข้อง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ผลผลิตเหล็กดิบของจีนอ่อนตัวลงมาแล้ว 5 ครั้งในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา หลังจากที่ทางการได้สั่งให้โรงงานเหล็กใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างเหมาะสม
ข้อมูลล่าสุดที่สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนได้เปิดเผยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาชี้ให้เห็นว่า ผลผลิตเหล็กดิบร่วงลง 0.3% แตะ 50.17 ล้านตันในเดือนพ.ย. จากระดับเดือนต.ค.ที่ 50.3 ล้านตัน ขณะที่ผลผลิตทั้งหมดในช่วงเดือนม.ค.-พ.ย. เพิ่มขึ้น 10.1% ต่อปี แตะ 577.3 ล้านตัน
นายหยาวคาดการณ์ว่า ผลผลิตเหล็กดิบตลอดทั้งปีในปีนี้จะอยู่ที่ 625 ล้านตัน ซึ่งขยายตัวขึ้นเกือบ 10% เมื่อเทียบเป็นรายปี แม้ว่าจะมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการผลิตเหล็กที่ชะลอตัวลง แต่นายหยาวก็ยังมีมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับการส่งออกเหล็ก โดยคาดว่ายอดการส่งออกสินแร่เหล็กและเหล็กกล้าอาจจะฟื้นตัวพร้อมๆกับเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวขึ้น
สำนักงานศุลกากรจีนเปิดเผยว่า ยอดการส่งออกผลิตภัณฑ์เหล็กพุ่งขึ้นถึง 87% ต่อปี แตะ 39.70 ล้านตันในเดือนม.ค.-พ.ย.