ธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า จีนจะใช้นโยบายการเงินที่มีเสถียรภาพและหาทางควบคุมสภาพคล่อง และเปิดช่องทางในการระดมทุนของธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะภาคการเกษตรและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
ธนาคารกลางจีนจะวิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจโลก และรักษาสมดุลระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจที่ค่อนข้างจะขยายตัวอย่างรวดเร็วและมีเสถียรภาพ การปรับโครงสร้าง และการบริหารเงินเฟ้อ
นอกจากนี้ ธนาคารยังจะปรับปรุงกลไกการจัดตั้งอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวน
-- คณะกรรมการกำกับดูแลธนาคารจีนได้ย้ำว่า ธนาคารพาณิชย์ควรจะบริหารความเสี่ยงอย่างเข้มงวดมากขึ้นในส่วนที่เกี่ยวกับการปล่อยกู้แก่สถาบันการเงินท้องถิ่น และผลักดันให้ธนาคารพาณิชย์ควบคุมกลไกการปล่อยกู้ และปรับปรุงโครงสร้างการปล่อยกู้
ทางคณะกรรมการกำกับดูแลธนาคารยังระบุว่า จะดูแลเรื่องเงินทุนสำหรับการปล่อยกู้ โดยเฉพาะองค์กรด้านการเกษตรและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
-- ไชน่า ซิเคียวริตีส์ เจอร์นัล รายงานว่า จีนจะกำหนดเป้าหมายของการขยายตัวของปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบสำหรับปี 2554 ที่ 16% โดยได้มีการอ้างแหล่งข่าวจากทางการจีนว่า เป้าหมายใหม่สำหรับการปล่อยเงินกู้ในปีหน้า จะอยู่ที่ 7.5 ล้านล้านหยวน ซึ่งเป็นระดับเดียวกับเมื่อปีที่แล้ว
-- ธนาคารที่รัฐบาลเป็นเจ้าของทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารอินดัสเทรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงค์ ออฟ ไชน่า อะกริคัลเจอรัล แบงค์ ออฟ ไชน่า แบงค์ ออฟ ไชน่า และแบงค์ ออฟ คอมมิวนิเคชั่นส์ เปิดเผยว่า ธนาคารจะใช้นโยบายเศรษฐกิจมหภาคของรัฐบาลอย่างเข้มงวดในเรื่องการปล่อยกู้ เพื่อสนับสนุนให้การพัฒนาเศรษฐกิจเป็นไปอย่างมีเสถียรภาพ
-- เซี่ยงไฮ้ ซิเคียวริตีส์ นิวส์ รายงานว่า ธนาคารกลางจีนได้กำหนดให้ธนาคารรายใหญ่ 6 แห่งขยายระยะเวลาในการกันเพดานสำรองออกไปอีก 3 เดือนจนถึงวันที่ 15 มี.ค. 2554
เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ธนาคารกลางจีนได้ปรับขึ้นเพดานกันสำรองธนาคารพาณิชย์ 6 แห่งอีก 0.5% ธนาคารเหล่านั้นได้แก่ อินดัสเทรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงค์ ออฟ ไชน่า อะกริคัลเจอรัล แบงค์ ออฟ ไชน่า แบงค์ ออฟ ไชน่า ไชน่า เมอร์ชานท์ แบงค์ และไชน่า หมินเจิง แบงกิ้ง การขึ้นเพดานกันสำรองนี้จะหมดอายุในวันที่ 15 ธ.ค. 2553 สำนักข่าวซินหัวรายงาน