ครม.วันนี้พิจารณายกเลิกซื้อกิจการฮัทช์-เอกชนลงทุนรถไฟฟ้าสีน้ำเงิน

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday December 28, 2010 09:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) จะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันนี้พิจารณายกเลิกโครงการเข้าซื้อกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ CDMA หลังจาก บมจ.กสท.โทรคมนาคม ไม่สามารถเจรจาตกลงกับบริษัท ฮัทชิสัน ซีเอที ไวเลส มัลติมีเดีย ผู้ให้บริการโทรศัพท์ HUTCH ได้

ทั้งนี้ กสท.จะเสนอให้ ครม.รับทราบแนวทางดำเนินธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่รูปแบบใหม่แทน โดยได้มีการศึกษารูปแบบความร่วมมือกับพันธมิตรและรูปแบบในการบริหารจัดการบริการทั้ง 2 ส่วน คือ ในส่วนกลาง 25 จังหวัด และในส่วนภูมิภาค 51 จังหวัด

นอกจากนั้น ในที่ประชุมครม.วันนี้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จะเสนอให้พิจารณาเห็นชอบในหลักการให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และช่วงเตาปูน-ท่าพระ ในรูปแบบพีพีพีกรอส คอสท์ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอโดยภาครัฐลงทุนค่างานโยธาทั้งหมด และเอกชนลงทุนค่างานระบบไฟฟ้าและขบวนรถไฟฟ้า รวมทั้งบริหารการเดินรถและซ่อมบำรุงตามมาตรฐานการให้บริการที่กำหนดไว้ในเงื่อนไขของสัญญา

และจะเสนอให้ครม.เห็นชอบให้ปรับเพิ่มกรอบวงเงินค่าจ้างที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานระบบรถไฟฟ้าจำนวน 448 ล้านบาท เพื่อให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) สามารถตรวจสอบความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าและเครื่องกลและตัวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนก่อนเปิดให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ขณะที่กระทรวงการคลังจะเสนอขอความเห็นชอบ มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการควบรวมกิจการ กรณีการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินปันผล และขออนุมัติหลักการร่าง พ.ร.ฎ.ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..)เพื่อแก้ปัญหาจากการควบรวมกิจการและโอนกิจการทั้งหมดให้แก่กัน ส่งผลให้บริษัทจำกัดใหม่หรือบริษัทจำกัดผู้รับโอนไม่ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินปันผล

และจะเสนอขออนุมัติหลักการ ร่าง พ.ร.บ.ประกันวินาศภัย และร่าง พ.ร.บ.ประกันชีวิตรวม 2 ฉบับ สาระสำคัญเรื่องของโครงสร้างผู้ถือหุ้น กำหนดให้บริษัทต้องมีหุ้นที่บุคคลสัญชาติไทยถือไม่ต่ำกว่า 75% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ซึ่งจะต้องมีสิทธิออกเสียงไม่ต่ำกว่า 75% และต้องมีกรรมการเป็นบุคคลผู้มีสัญชาติไทยไม่ต่ำกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนกรรมการ

นอกจากนี้ กำหนดอำนาจกระทำกิจการของกองทุนประกันวินาศภัยและกองทุนประกันชีวิตเพิ่มเติมอีก 2 กรณี คือ การกู้ยืมหรือออกตั๋วเงิน หรือตราสารทางการเงินอื่น ทั้งนี้ ต้องเป็นการกระทำเพื่อช่วยเหลือเจ้าหนี้ซึ่งมีสิทธิได้รับชำระหนี้ที่เกิดจากการเอาประกันภัยและกำหนดให้เป็นผู้ชำระบัญชีบริษัทที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันภัย

นอกจากนั้น ยังจะขออนุมัติการกู้เงินของธนาคารอาคารสงเคราะห์ในปีงบประมาณ 2554 จำนวน 18,000 ล้านบาท ประกอบด้วย การกู้เงินเป็นเงินทุนหมุนเวียน จำนวน 11,000 ล้านบาท และการกู้เงินเพื่อทดแทนพันธบัตรเดิมที่ครบกำหนด จำนวน 7,000 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ