เหงียน ซิน ฮัง รองนายกรัฐมนตรีเวียดนามกล่าวในการประชุมงานของกระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบทว่า เวียดนามจะพยายามผลักดันให้ภาคการเกษตรขยายตัวได้ในอัตราเฉลี่ย 3.5-3.8% ต่อปี ภายในช่วงปี 2554-2558
นายฮังกล่าวเสริมว่า เขามีความพอใจต่อการขยายตัวของภาคการเกษตรในช่วงปี 2549-2553 ซึ่งมีส่วนช่วยผลักดันให้ประเทศบรรลุเป้าหมายการพัฒนาชนบท การกำจัดความหิวโหย การลดปัญหาความยากจน และการส่งเสริมคุณภาพชีวิต
โดยในช่วงปี 2554-2558 รัฐบาลเวียดนามจะให้ความสำคัญต่อการการลงทุนทางด้านการเกษตรเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมและการพัฒนาตลาดในระยะยาว และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ ภาคเกษตรจะต้องได้รับการปรับปรุงโดยการนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้ในการผลิต รวมทั้งการพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐาน เช่น การขนส่ง และ ระบบชลประทาน โดยตั้งเป้าในอีก 5 ปีข้างหน้า ภาคเกษตรจะต้องขยายตัวเฉลี่ย 3.5-3.8% ต่อปี นายฮังกล่าว
ส่วนในปี 2554 ที่กำลังจะมาถึงนี้ ภาคเกษตรจะต้องให้ความสำคัญต่อการเพิ่มผลผลิตสินค้าส่งออกที่สำคัญ ซึ่งได้แก่ ปลาดุก ข้าว ยาง กาแฟ พริกไทย และมะม่วงหิมพานต์ เป็นต้น
ด้านข้อมูลสถิติของกระทรวงเกษตรฯ บ่งชี้ว่า ภาคเกษตรของเวียดนามจะขยายตัว 2.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ถึงแม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ โรคระบาด และ วิกฤติเศรษฐกิจโลก
ทั้งนี้ เวียดนามคาดว่าจะมีรายได้จากการส่งออกผลิตภัณฑ์เกษตร ป่าไม้ และประมง 1.915 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2553 เพิ่มขึ้น 22.6% เมื่อเทียบกับปี 2552 สำนักข่าวซินหัวรายงาน