ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงหนัก หลังนักลงทุนแห่ซื้อสกุลเงินที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า

ข่าวต่างประเทศ Thursday December 30, 2010 07:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 ธ.ค.) เนื่องจากการคาดการณ์ที่เศรษฐกิจโลกจะขยายตัวได้ดีขึ้นในปี 2554 ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูง รวมถึงสกุลเงินยูโร และกดดันดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินที่ปลอดภัย นอกจากนี้ การที่รัฐบาลสหรัฐสามารถประมูลขายพันธบัตรได้จำนวนมาก ยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ความต้องการดอลลาร์ลดน้อยลงด้วย

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.99% เมื่อเทียบเงินเยนที่ระดับ 81.640 เยน จากระดับของวันอังคารที่ 82.460 เยน และอ่อนตัวลง 0.64% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9459 ฟรังค์ จากระดับ 0.9520 ฟรังค์

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.77% แตะที่ 1.3218 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.3117 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ทะยานขึ้น 0.72% แตะที่ 1.5493 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5382 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.80% แตะที่ 1.0175 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.0094 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 1.44% แตะที่ 0.7669 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7560 ดอลลาร์สหรัฐ

นักลงทุนแห่ซื้อสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูง รวมถึงยูโร และลดการถือครองดอลลาร์สหรัฐซึ่งเป็นสกุลเงินที่ปลอดภัย หลังจากมีการคาดการณ์ในเชิงบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในปีหน้า โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2554 จะอยู่ที่ 4.2%

ขณะที่องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) คาดว่าเศรษฐกิจในปีหน้าจะขยายตัวในอัตรา 4.2% และองค์การสหประชาชาติคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกปี 2554 จะขยายตัว 3.1% ส่วนในปี 2555 คาดว่า จะขยายตัว 3.5%

นอกจากนี้ ความต้องการสกุลเงินดอลลาร์ยังลดน้อยลงหลังจากมีรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐสามารถประมูลขายพันธบัตรอายุ 7 ปีวงเงิน 2.9 หมื่นล้านดอลลาร์ได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรร่วงลง

ส่วนค่าเงินเยนยังคงแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากทางการญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย.ขยายตัว 1.0% จากเดือนต.ค. ทำสถิติขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.9 % เนื่องจากผลผลิตยานยนต์ปรับตัวสูงขึ้น

ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนพ.ย. และดัชนีภาคการผลิตเดือนธ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ