นายยี กัง ผู้อำนวยการสำนักงานปริวรรตเงินตราของรัฐบาลจีน (SAFE) และรองผู้ว่าการธนาคารกลางจีน เปิดเผยในนิตยสาร China Exchange ซึ่งเป็นนิตยสารที่ตีพิมพ์โดย SAFE ว่า จีนยังคงเดินหน้าใช้เครื่องมือด้านนโยบายการเงินเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
นายยี่กล่าวว่า จีนควรจะกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจในประเทศ ลดการเกินดุลการค้า และสร้างสมดุลของดุลการชำระเงินระหว่างประเทศ เพื่อป้องกันสภาพคล่องส่วนเกินในตลาด ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณของสหรัฐ
-- นายเหยา จิงหยวน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน กล่าวให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์พีเพิลส์ เดลี่ ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ไม่มีแนวโน้มเคลื่อนไหวเหนือระดับ 3.5% สำหรับตลอดปี 2553
นายเหยาประมาณการว่า อัตราการขยายตัวของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) จะอยู่ที่ 10% เมื่อเทียบเป็นรายปี และหากเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ก็ดูเหมือนว่าอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 3-5% อยู่ภายในช่วงปรกติ
นอกจากนี้ นายเหยาคาดว่า จีนจะยังคงเผชิญกับแรงกดดันของเงินเฟ้ออย่างมากในปี 2554 เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์อาหารหลักในตลาดต่างประเทศปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งมีความไม่แน่นอนในด้านผลผลิตธัญญพืชภายในประเทศ อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ และการปล่อยกู้
-- นายกวน เตา ผู้อำนวยการฝ่ายการชำระเงินระหว่างประเทศของสำนักงานปริวรรตเงินตราของรัฐบาลจีน (SAFE) กล่าวในการประชุมประจำปีว่าด้วยการลงทุนในจีนในปี 2553 ว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนในปี 2553 เพิ่มขึ้น 4.481 แสนล้านดอลลาร์ จากปีก่อนหน้านั้น ขณะที่ยอดเกินดุลการค้าและตัวเลขการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ยังคงเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศขยายตัวขึ้น
-- ค่ากลางของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.31% มาที่ 6.5997 หยวนต่อดอลลาร์ในวันนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สำนักข่าวซินหัวรายงาน