นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในวอลล์สตรีทคาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payrolls) ประจำเดือนม.ค.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในคืนนี้นั้น จะเพิ่มขึ้นราว 146,000 ตำแหน่ง หลังจากโรงงานอุตสาหกรรมและภาคบริการของสหรัฐเพิ่มการจ้างงานและการลงทุน
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่า อัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 9.5% ในเดือนม.ค. จากระดับ 9.4% ของเดือนธ.ค.2553
นักวิเคราะห์บางกลุ่มมีมุมมองที่เป็นบวกต่อตลาดแรงงานสหรัฐ โดยคาดว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นอีกหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะภาคบริการซึ่งมีการจ้างงานสูงเกือบ 90% ของตัวเลขจ้างงานโดยรวมภายในประเทศนั้น ขยายตัวในอัตราที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 5 ปีในเดือนม.ค. ขณะที่ยอดค้าปลีกปรับตัวสูงขึ้น และยอดสั่งซื้อในภาคโรงงานพุ่งขึ้นในเดือนธ.ค.
สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการเดือนม.ค.ของสหรัฐ ขยายตัวที่ระดับ 59.4 จุด เพิ่มขึ้นจากระดับ 57.1 จุดของเดือนธ.ค.ปี 2553 สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า จะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 57 จุด และระบุว่า ดัชนีการจ้างงานในภาคบริการขยายตัวที่ระดับ 54.5 จุด จากเดือนธ.ค.ที่ระดับ 52.6 จุด
ส่วนสัญญาณบวกอื่นๆที่สะทื้อนถึงการเพิ่มขึ้นของตัวเลขจ้างงานคือ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 29 ม.ค.ปรับตัวลดลง 42,000 ราย แตะระดับ 415,000 ราย มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 420,000 ราย
อย่างไรก็ตาม สภาพอากาศที่หนาวเย็นที่แผ่ปกคลุมในหลายพื้นที่ของสหรัฐ อาจส่งผลกระทบต่อการจ้างงาน เนื่องจากพายุหิมะที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้บริษัทหลายแห่ง โดยเฉพาะบริษัทในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ต้องระงับการดำเนินงาน และอาจจำเป็นต้องเลย์ออฟพนักงานชั่วคราว