สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (8 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนแห่ซื้อทองคำเพื่อปกป้องความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ หลังจากธนาคารกลางจีนประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อและภาวะฟองสบู่ภายในประเทศ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 15.9 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 1,364.1 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,348.90 - 1,368.70 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 30.271 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 92.8 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 0.10 เซนต์ ปิดที่ 4.5740 ดอลลาร์/ปอนด์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,861.90 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 17.70 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 838.45 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 19.40 ดอลลาร์
สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเทรดเดอร์ในตลาดทองคำว่า นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำเพื่อปกป้องความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ หลังจากธนาคารกลางจีนประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และดอกเบี้ยเงินฝากอีก 0.25% โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดกั้นเงินเฟ้อและภาวะฟองสบู่
ทั้งนี้ การตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยของจีนยังมีความสอดคล้องกับธนาคารกลางของประเทศอื่นๆในเอเชีย รวมถึงประเทศไทยและเกาหลีใต้ ที่ตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยไปแล้วในปีนี้ เพื่อยับยั้งการลุกลามของเงินเฟ้อ นอกจากนี้ การประกาศขึ้นดอกเบี้ยของจีนยังเป็นการส่งสัญญาณต่อตลาดว่า จีนกำลังให้ความสำคัญกับปัญหาเงินเฟ้อมากขึ้น
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงถือครองทองคำเพื่อความปลอดภัยในขณะที่การชุมนุมประท้วงในอียิปต์ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง แม้มีความคืบหน้าล่าสุดว่าทางการอียิปต์ได้กำหนดกรอบเวลาในการถ่ายโอนอำนาจอย่างสันติแล้วก็ตาม