ฟิทช์ เรทติ้งส์ เปิดเผยในรายงานพิเศษฉบับใหม่ว่า ธุรกิจโทรคมนาคมของไทยจะยังคงมีสถานะด้านการเงินที่แข็งแกร่งในปี 2554 แม้ธุรกิจในภาคส่วนนี้ยังคงเผชิญกับความเสี่ยงที่เป็นผลมาจากการบังคับใช้กฎหมายและกฎข้อบังคับที่อาจจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทสื่อสารโทรคมนาคมเอกชนรายใหญ่ก็ตาม
รายงานของฟิทช์ระบุว่า ความแข็งแกร่งของรายได้จากการให้บริการที่ไม่ใช่เสียง (non-voice revenue) ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และอัตราส่วนหนี้สินที่อยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับอันดับเครดิตปัจจุบัน น่าจะช่วยลดทอนผลกระทบจากอัตราส่วนกำไรต่อรายได้ที่อาจปรับตัวลดลง เนื่องจากการแข่งขันที่สูงขึ้นและรายได้จากค่าบริการที่เป็นเสียง (Voice service) ที่เข้าสู่ภาวะอิ่มตัว
อย่างไรก็ตาม ฟิทช์มองว่า ความเสี่ยงที่เกิดจากการบังคับใช้กฎหมายและกฎข้อบังคับอาจส่งผลในด้านลบต่อธุรกิจและฐานะการเงินของผู้ประกอบการธุรกิจโทรคมนาคมของไทย โดยฟิทช์คาดว่า การตรวจสอบและการแก้ไขสัญญาสัมปทานอาจนำไปสู่การเรียกร้องค่าเสียหายจำนวนมากจากผู้ให้สัมปทานซึ่งได้แก่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ต่อผู้ได้รับสัมปทานเอกชน ซึ่งได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (อันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ: ‘BBB+’/แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ), บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) (อันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ: ‘BBB’/แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ) และบริษัท ทรูมูฟ จำกัด หรืออาจถึงขั้นยกเลิกสิทธิภายใต้สัญญาสัมปทานได้
นอกจากนี้ ฟิทช์ระบุว่า การปรับปรุงกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการจำกัดการถือหุ้นของชาวต่างชาติที่เข้มงวดขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อการลงทุนที่จะเกิดขึ้นใหม่ และการให้การสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของผู้ประกอบการได้