นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมว.อุตสาหกรรม ยืนยันว่า ในขณะนี้จะยังไม่มีการจัดสรรโควตา ก.เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด อีกทั้งการกำหนดโควตา ก.25 ล้านกระสอบถือว่าเพียงพอกับความต้องการในประเทศแล้ว และเป็นปริมาณที่สูงกว่าอดีตที่ผ่านมามาก เนื่องจากมีปริมาณเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 3 ล้านกระสอบ และหากน้ำตาลเหลือจากการบริโภคก็สามารถนำออกไปขายต่างประเทศที่ราคาสูงกว่าได้ เพราะยังเป็นที่ต้องการของตลาดโลกที่ขาดแคลน
อย่างไรก็ดี จะต้องขอให้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะปัญหาการลักลอบส่งออกน้ำตาลไปยังประเทศเพื่อนบ้าน แต่ขณะนี้ถือได้ว่าราคาน้ำตาลตลาดโลกสูงมาก ซึ่งคนไทยบริโภคน้ำตาลทรายถูกที่สุดเป็นอันดับต้นๆในโลก ยกเว้นมาเลเซียที่รัฐบาลให้การอุดหนุนเพิ่ม
สำหรับปัญหาน้ำตาลทรายบรรจุถุงที่จำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรดที่ยังไม่เพียงพอนั้น รมว.อุตสาหกรรม ยอมรับว่า เป็นการตกลงกันระหว่าง 2 ฝ่าย ได้แก่ โรงงานน้ำตาลและผู้ประกอบการ ซึ่งมีการทำสัญญากันไว้ล่วงหน้า แต่ยอมรับว่าปัญหาส่วนหนึ่งที่ทางโรงงานน้ำตาลประสบ คือ การบรรจุถุงมีต้นทุนที่สูงกว่าทำให้การจำหน่ายแล้วขาดทุน
ส่วนกรณีที่โรงงานผลิตอาหารส่งออก หันมาใช้น้ำตาลโควตา ก.มากขึ้น และบางโรงงานขอคืนน้ำตาลโควตา ค.ซึ่งเป็นน้ำตาลส่งออกนั้น กระทรวงอุตสาหกรรมมีนโยบายชัดเจนว่าหากคืนแล้วในปีต่อไปจะไม่จัดสรรโควตาค.ให้กับโรงงานนั้นๆอีก ดังนั้น ขอให้แต่ละโรงงานพิจารณาให้ถี่ถ้วน เนื่องจากสถานการณ์ราคาน้ำตาลขณะนี้ต่างประเทศแพงกว่าไทย แต่ในอนาคตสถานการณ์อาจตรงกันข้ามก็ได้ เมื่อถึงเวลานั้นการจะขอโควตา ค.อีกครั้งทางกระทรวงอุตสาหกรรมก็อาจจะไม่อนุมัติให้