ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดเดินหน้าขึ้น 73.11 จุด หรือ 0.59% แตะที่ 12,391.25 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2551
-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 วันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไร ก่อนที่สัญญาจะหมดอายุและก่อนตลาดปิดทำการนาน 3 วัน แต่เหตุจลาจลในตะวันออกกลางช่วยพยุงราคาไม่ให้ร่วงลงมาก
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมี.ค.ปรับตัวลง 16 เซนต์ ปิดที่ 86.20 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 87 เซนต์ ปิดที่ 89.71 ดอลลาร์/บาร์เรล
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดเดินหน้าขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 ก.พ.) เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากเหตุการณ์ความไม่สงบในภูมิภาคตะวันออกกลาง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 3.5 ดอลลาร์ หรือ 0.25% ปิดที่ 1,388.60 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,382-1,392.60 ดอลลาร์
-- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง ขณะที่เงินยูโรแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 ก.พ.) หลังจากที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เตือนว่า ธนาคารอาจจำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง 0.32% เมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 83.050 เยน จากระดับ 83.320 ในวันพฤหัสบดี และอ่อนค่าลง 0.38% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9462 ฟรังค์ จากระดับ 0.9498 ฟรังค์
เงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.68% ที่ระดับ 1.3694 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3601 ดอลลาร์สหรัฐ และปรับตัวขึ้น 0.36% แตะ 113.74 เยน จากระดับ 113.33 เยน
-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 ก.พ.) โดยหุ้นกลุ่มเหมืองถูกแรงขายกดดัน หลังจากที่จีนประกาศใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อควบคุมเงินเฟ้อและชะลอความร้อนแรงของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายยังได้รับปัจจัยลบจากสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลาง
ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลง 4.39 จุด หรือ 0.07% แตะที่ 6,082.99 จุด