นายจอห์น ซัง รัฐมนตรีคลังฮ่องกง เปิดเผยว่า เศรษฐกิจฮ่องกงขยายตัว 6.8% ในปี 2553 โดยระบุว่า เศรษฐกิจปี 2553 ฟื้นตัวอย่างเต็มที่จากภาวะถดถอยในปี 2552 เพราะได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจจีนและเอเชียที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งเหนือระดับก่อนเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ฮ่องกงส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้น 17.3% ในปีที่แล้ว โดยได้รับแรงหนุนจากตลาดการค้าโลกที่ฟื้นตัว ขณะที่ค่าใช้จ่ายด้านการบริโภคของภาคเอกชนขยายตัว 5.8% ในปีที่แล้ว อันเป็นผลมาจากตลาดแรงงานที่ฟื้นตัวและรายได้ที่เพิ่มขึ้น
ส่วนการลงทุนโดยรวมก็เติบโตอย่างแข็งแกร่ง 8.1% ในปีที่แล้ว โดยได้รับแรงหนุนจากความเชื่อมั่นภาคธุรกิจที่สดใสและการริเริ่มโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่หลายโครงการ
ขณะที่ตลาดแรงงานและรายได้ก็ฟื้นตัวขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งช่วยให้การใช้จ่ายผู้บริโภคขยายตัวแข็งแกร่งถึง 5.8% ในปี 2553 โดยนายซังกล่าวว่า ตลาดแรงงานของฮ่องกงฟื้นตัวขึ้นได้ก็เพราะเศรษฐกิจโดยรวมของฮ่องกงฟื้นตัวขึ้นจากภาวะถดถอย และตลาดแรงงานของฮ่องกงมีความยืดหยุ่นและสามารถต้านทานวิกฤตเศรษฐกิจโลกได้ อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการใช้มาตรการต่างๆของรัฐบาลฮ่องกง ทั้งนี้ อัตราว่างงานของฮ่องกงลดลง 1.7% มาอยู่ที่ระดับ 3.8%
นายซังกล่าวว่า การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และการปรับตัวขึ้นของราคาอาหารและสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกก็เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ โดยอัตราเงินเฟ้อในปี 2553 ซึ่งคำนวณจากดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 2.4%
นอกจากนี้ นายซังคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจฮ่องกงจะขยายตัว 4-5% ในปี 2554 และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ราว 4.5%