ธปท.เผยม.ค.อัตราการใช้กำลังการผลิต อยู่ที่ 62.1%

ข่าวเศรษฐกิจ Monday February 28, 2011 15:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า อัตราการใช้กำลังผลิตในเดือน ม.ค. 54 อยู่ที่ 62.1% ภาคการผลิต ขยายตัวสอดคล้องกับอุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศ โดยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) กลับมาขยายตัวร้อยละ 3.7 จากที่หดตัวร้อยละ 3.4 ในเดือนก่อน ตามการขยายตัวของการผลิตในหมวดสิ่งทอ ปิโตรเลียม ยานยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ขณะที่การผลิตในหมวด Hard Disk Drive ยังคงหดตัวต่อเนื่องจากฐานการผลิตที่สูงในระยะเดียวกันปีก่อน

สำหรับผลผลิตสินค้าเกษตร ขยายตัวต่อเนื่องจากผลผลิตข้าวที่เลื่อนมาให้ผลผลิตมากขึ้นจากการเพาะปลูกที่ช้ากว่าวิสัยทัศน์ เป็นองค์กรที่มองการณ์ไกล พนักงานมีความสามารถสูงและอุทิศตนเพื่อดูแลเศรษฐกิจให้ผ่านพ้นความผันผวนได้อย่างราบรื่น

ปกติจากผลกระทบของภัยแล้งในช่วงกลางปี 2553 ในขณะที่ผลผลิตปาล์มน้ำมัน มะพร้าว และมันสำปะหลัง ยังคงได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติ รวมทั้งปัญหาแมลงระบาด ขณะที่ความต้องการสินค้าเกษตรทั้งในประเทศและตลาดโลกยังมีสูงทำให้ราคาสินค้าเกษตรยังขยายตัวเร่งขึ้นถึงร้อยละ 26.3 ส่งผลให้รายได้เกษตรกรขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 30.6

ในเดือนม.ค. 54 อุปสงค์ในประเทศกลับมาขยายตัวได้ดีและยังคงได้รับปัจจัยสนับสนุนจากรายได้เกษตรกรที่อยู่ในระดับสูง อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำซึ่งเอื้อต่อการบริโภคและการลงทุน รวมทั้งความเชื่อมั่นของนักธุรกิจที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี

ทั้งนี้ ดัชนีการลงทุนภาคเอกชน (PII) ขยายตัวเร่งขึ้นในอัตราร้อยละ 13.0 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นการขยายตัวของเครื่องชี้ทุกหมวด โดยหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ขยายตัวสูงจากการนำเข้าสินค้าทุนที่เพิ่มขึ้นมากส่วนหนึ่งจากการนำเข้าแท่นขุดเจาะน้ำมัน และอีกส่วนหนึ่งเป็นการนำเข้าเครื่องจักรเพื่อขยายกำลังการผลิตในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งออกที่คำสั่งซื้อยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง อาทิ อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า

นอกจากนี้ การจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ยังขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง ส่วนหมวดก่อสร้างขยายตัวมากขึ้นตามการก่อสร้างและซ่อมแซมที่อยู่อาศัยที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมในช่วงก่อนหน้า

ขณะเดียวกัน ดัชนีการบริโภคภาคเอกชน (PCI) ขยายตัวร้อยละ 4.7 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน โดยเครื่องชี้ในทุกหมวดทั้งสินค้าคงทนและไม่คงทนยังขยายตัวในเกณฑ์ดีจากกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นตามเศรษฐกิจที่ขยายตัวต่อเนื่อง สำหรับภาครัฐยังคงมีบทบาทในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยในเดือนนี้รัฐบาลขาดดุลเงินสด 120.4พันล้านบาท จากการใช้จ่ายของรัฐบาลที่เร่งขึ้นมาก ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งรายจ่ายอื่นๆ ทั้งงบประจำและงบลงทุนยังคงเบิกจ่ายในเกณฑ์ดี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ