สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กยังคงปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (8 มี.ค.) เพราะถูกกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ นอกจากนี้ การร่วงลงของราคาน้ำมันดิบยังส่งผลให้ความต้องการถือครองทองคำเพื่อปกป้องความเสี่ยงจากเงินเฟ้อนั้น ปรับตัวลดลงด้วย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 7.30 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 1,427.20 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,423.60-1,437.20 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 20.70 เซนต์ ปิดที่ 35.658 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ร่วงลง 1.2 เซนต์ ปิดที่ 4.325 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ดิ่งลง 17.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,802.60 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 3.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 786.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำถูกกดดันหลังจากราคาน้ำมันดิบ NYMEX ร่วงลงจากระดับสูงสุดในรอบ 29 เดือนเมื่อคืนนี้ รายงานที่ว่า รมว.กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) อาจจะจัดประชุมฉุกเฉินเพื่อหารือกันเรื่องการปรับเพิ่มเพดานการผลิตน้ำมันเพื่อรองรับอุปทานตึงตัว เนื่องจากเหตุการณ์รุนแรงในลิเบียส่งผลให้ปริมาณการผลิตในลิเบียลดลงอย่างมาก
นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับปัจจัยลบจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ โดยดัชนีดอลลาร์ (dollar index) ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินที่เป็นคู่ค้าหลักของสหรัฐ พุ่งขึ้นแตะระดับ 76.788 จุดเมื่อคืนนี้ จากวันจันทร์ที่ระดับ 76.488 จุด
นักวิเคราะห์ในตลาดทองคำนิวยอร์กกล่าวว่า การร่วงลงของราคาน้ำมันดิบทำให้ความต้องการถือครองทองคำเพื่อปกป้องความเสี่ยงจากเงินเฟ้อนั้น ปรับตัวลดลงด้วย หลังจากที่ตลาดทองคำได้รับอิทธิพลอย่างมากจากการพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วของราคาน้ำมันในช่วงก่อนหน้านี้