ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (22 มี.ค.) เนื่องจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบทำให้นักลงทุนกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทเอกชน โดยเฉพาะธุรกิจสายการบิน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์รุนแรงในลิเบียและวิกฤตการณ์นิวเคลียร์ของญี่ปุ่น
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 17.90 จุด หรือ 0.15% แตะที่ 12,018.63 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 4.61 จุด หรือ 0.36% แตะที่ 1,293.77 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 8.22 จุดหรือ 0.31% ปิดที่ 2,683.87 จุด\
-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กยังคงปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (22 มี.ค.) เนื่องจากเหตุการณ์สู้รบในลิเบียและสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองในตะวันออกกลางทำให้นักลงทุนกังวลว่า อาจจะส่งผลกระทบต่ออุปทานและการลำเลียงน้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 1.67 ดอลลาร์ หรือ 1.63% ปิดที่ 104.00 ดอลลาร์/บาร์เรล
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 มี.ค.) เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดในลิเบียและหลายประเทศในตะวันออกกลาง ยังคงเป็นแรงกกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 1.20 ดอลลาร์ หรือ 0.08% ปิดที่ ,427.60 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,419.50-1,432.30 ดอลลาร์
-- ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวช่วงเช้าวันนี้ (22 มี.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะในประเทศยูโรโซน ขณะที่ค่าเงินเยนเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่ากลุ่ม G-7 อาจจะแทรกแซงตลาดเพื่อเทขายเงินเยนอีก
ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลง 0.20% แตะที่ 1.4198 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.4226 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.41% แตะที่ 1.6377 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6310 ดอลลาร์สหรัฐ
-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดตลาดอ่อนแรงลงเมื่อคืนนี้ (22 มี.ค.) หลังจากปรับตัวขึ้นในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ขณะที่ตลาดมีความวิตกเกี่ยวกับการโจมตีของพันธมิตรต่อลิเบีย และราคาน้ำมันได้ทะยานขึ้นอีกครั้ง
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE ปิดลบ 23.38 จุด หรือ 0.4% ที่ 5,762.71