รมว.พาณิชย์ เสนอให้มีการนำเงินจากกองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายจ่ายชดเชยให้แก่โรงงานน้ำตาลทรายเพื่อเพิ่มแรงจูงใจให้ผลิตน้ำตาลทรายบรรจุถุง หลังผู้ผลิตลดการผลิตป้อนห้างค้าปลีก โดยอ้างต้นทุนค่าบรรจุถุงเพิ่มเป็น 1.40 บาท จากเดิมเพียง 75 สตางค์ โดยยืนยันยังไม่อนุมัติให้ปรับขึ้นค่าบรรจุถุงตามข้อเสนอ พร้อมตั้งคณะทำงานศึกษาเก็บค่าธรรมเนียมส่งออกโควตา ค.
"แนวทางนี้น่าจะเป็นไปได้ เพราะกองทุนฯ ได้เงินที่ประชาชนจ่ายซื้อน้ำตาลทราย ซึ่งเก็บจากประชาชนกิโลกรัมละ 5 บาท เพื่อนำเงินสบทบเข้ากองทุนฯ ช่วยเหลือผู้ปลูกอ้อย แต่เมื่อประชาชนเดือนร้อน กองทุนฯ ก็น่าจะช่วยเหลือประชาชนบ้าง ซึ่งจะต้องหารือกับรัฐมนตรีอุตสาหกรรมก่อน แล้วจึงนำผลหารือเสนอให้ ครม.พิจารณาอนุมัติต่อไป" นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ กล่าวภายหลังหารือร่วมกับตัวแทนกระทรวงอุตสาหกรรม และโรงงานผลิตน้ำตาลทราย เพื่อหาทางแก้ปัญหาน้ำตาลทรายบรรจุถุงขาดแคลน
ก่อนหน้านี้ ผู้ประกอบการโรงงานน้ำตาลทรายขอปรับขึ้นค่าบรรจุถุงจาก 75 สตางค์ เป็น 1.40 บาท โดยอ้างว่าการผลิตไม่คุ้มต้นทุนจนต้องลดปริมาณการผลิตน้ำตาลทรายถุงลง ทั้งนี้คาดว่าจะใช้เงินชดเชยให้กับโรงงานราว 700-800 ล้านบาท
รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ได้ขอความร่วมมือให้โรงงานน้ำตาลทราย 4 แห่งที่ผลิตแบบถุงเพิ่มกำลังการผลิต รวมทั้งส่งข้อมูลการผลิตต่อเดือน และปริมาณการขายมาให้กรมการค้าภายในด้วย ซึ่งหากไม่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้จะหาโรงงานอื่นมาผลิตแทน
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้ตั้งคณะทำงานขึ้น 1 ชุด ซึ่งมีตัวแทนจากกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ โรงงานน้ำตาลทราย เป็นต้น เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของการเก็บค่าธรรมเนียมส่งออกน้ำตาลทรายโควตา ค.(ส่งออก) จากปัจจุบันที่ไม่มีการเก็บ เพื่อนำเงินสมทบเข้ากองทุนฯ และทำให้ราคาส่งออกกับราคาขายในประเทศไม่แตกต่างกันมากนัก
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 25 มี.ค.นี้ รมว.พาณิชย์ จะหารือกับห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ เพื่อแก้ปัญหาน้ำตาลทรายถุงในห้างขาดแคลนด้วย