สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (30 มี.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรปและการสู้รบในลิเบียยังคงเป็นแรงกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง นอกจากนี้ สัญญาโลหะมีค่าอื่นๆ เช่นเงินและพลาตินัม ปรับตัวขึ้นด้วย เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่าญี่ปุ่นจะเพิ่มการนำเข้าโลหะเพื่อฟื้นฟูประเทศหลังจากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 7.4 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 1,424.90 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,413.10-1,431.70 ดอลลาร์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 52.6 เซนต์ ปิดที่ 37.535 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 31.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,775.70 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 5.15 ดอลลาร์ ปิดที่ 758.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของนักวิเคราะห์ในตลาดทองคำนิวยอร์กว่า สัญญาทองคำดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในระหว่างวันที่ 1,413.10 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนกลับเข้ามาช้อนซื้อในช่วงท้ายตลาด โดยมีจุดประสงค์ที่จะซื้อเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรปและสถานการณ์ความไม่สงบในลิเบีย โดยมีรายงานว่ากลุ่มต่อต้านมูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย ยังคงเดินหน้าสู้รบกับกองกำลังทหารของกัดดาฟี เพื่อบีบให้กัดดาฟีลงจากอำนาจ
นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานะด้านการคลังและหนี้สาธารณะในยุโรป หลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซและโปรตุเกสลงสู่ระดับ BB- และ BBB- ตามลำดับ
ส่วนสัญญาโลหะมีค่าประเภทอื่นๆ เช่นโลหะเงินและพลาตินัม ดีดตัวขึ้นจากการคาดการณ์ที่ว่า ญี่ปุ่นจะเพิ่มการนำเข้าวัสดุและโลหะเพื่อใช้ในการฟื้นฟูประเทศหลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่