สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (4 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ หลังจากราคาน้ำมันดิบทะยานขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 30 เดือน นอกจากนี้ สกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงยังเป็นอีกปัจจัยที่หนุนสัญญาทองคำพุ่งขึ้นด้วย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 4.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,433.00 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,429.10-1,440.30 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 76.20 เซนต์ ปิดที่ 38.494 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 0.35 เซนต์ ปิดที่ 4.255 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 10.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,787.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 9.35 ดอลลาร์ ปิดที่ 784.40 ดอลลาร์/ออนซ์
นักวิเคราะห์ในตลาดทองคำนิวยอร์กกล่าวว่า สัญญาทองคำดีดตัวขึ้นหลังจากร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยนักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ หลังจากราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย.2551 เป็นต้นมา
นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้ หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อในยูโรโซนพุ่งขึ้นเหนือระดับเป้าหมายของอีซีบี
สภาทองคำโลก (WGC) เปิดเผยว่า ความต้องการทองคำในอินเดียซึ่งเป็นผู้นำเข้าทองคำรายใหญ่สุดของโลก อาจพุ่งขึ้นเป็น 1,200 ตันภายในปี 2563 จากปี 2553 ที่ระดับ 963.1 ตัน เนื่องจากเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งช่วยหนุนรายได้และการออมเงินของภาคครัวเรือนในอินเดียให้สูงขึ้นด้วย