นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภค จากกลุ่มตัวอย่าง 1,183 คน ระหว่างวันที่ 28 มี.ค.-3 เม.ย.54 ในช่วงเทศกาลสงกรานต์พบว่า ช่วงสงกรานต์ปีนี้จะมีเงินสะพัด 96,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3.41% แต่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ในช่วงแรกที่คาดจะมีเงินสะพัด 99,500 ล้านบาท หรือคิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายที่หายไป 3,000 ล้านบาท
สาเหตุที่การใช้จ่ายช่วงสงกรานต์ปีนี้ลดลงจากปีก่อน เพราะน้ำท่วมในภาคใต้ ทำให้คนระมัดระวังการใช้จ่าย แต่หากสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายและเส้นทางคมนาคมใช้ได้เหมือนเดิม บรรยากาศการใช้จ่ายก็จะดีขึ้น หรืออาจมีเงินสะพัดเพิ่มขึ้นเป็น 97,500-98,000 ล้านบาท
"จากเหตุการณ์ภัยพิบัติทั้งสึนามิที่ญี่ปุ่น และน้ำท่วมในภาคใต้ ทำให้คนลังเลที่จะใช้จ่าย การเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศลดลง และเดินทางไปเที่ยวภาคใต้ลดลงเช่นกัน เพราะเกิดความไม่มั่นใจต่อสถานการณ์ คาดว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจากปัญหาน้ำท่วมจะอยู่ที่ 12,000 ล้านบาท ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจหายไป 3,000 ล้านบาทในช่วงสงกรานต์ แต่เชื่อว่าจะเป็นผลกระทบระยะสั้น" นายธนวรรธน์ กล่าว
สำหรับแผนการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ กลุ่มตัวอย่าง 48.3% ตอบว่าจะใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และปริมาณการซื้อสินค้ายังเท่าเดิม โดยการใช้จ่ายส่วนใหญ่นอกจากการท่องเที่ยวแล้ว ผู้ตอบ 92.8% ระบุว่า ใช้ในการทำบุญ โดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 1,685 บาท, 64.2% ไปเล่นน้ำสงกรานต์ มีค่าใช้จ่าย 1,196 บาท, 63.7% ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค มีค่าใช้จ่าย 3,240 บาท, 59.1% ทำอาหารที่บ้าน มีค่าใช้จ่าย 1,939 บาท และ 45.9% สังสรรค์/จัดเลี้ยง ค่าใช้จ่าย 2,918 บาท
ส่วนการเดินทางท่องเที่ยวในปีนี้ คนวางแผนเดินทางท่องเที่ยว 31.9% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีคนท่องเที่ยว 27% ส่วนที่ไม่ไปเที่ยวมี 68.1% โดยกลุ่มที่วางแผนไปท่องเที่ยวนั้น 92.2% จะเที่ยวในประเทศ อีก 7.8% ไปเที่ยวต่างประเทศ โดยประเทศที่คนวางแผนไปเที่ยวมากที่สุด คือ สิงคโปร์, ฮ่องกง, จีน และมาเลเซีย ส่วนกลุ่มที่เดินทางในประเทศนั้น จะนิยมเดินทางไปจังหวัดในภาคกลาง 52.1% ภาคเหนือ 19.4% ภาคใต้ 14.5% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 6.2% แต่กรณีที่เกิดน้ำท่วมที่ภาคใต้ ทำให้ผู้ตอบแบบสอบถามเพียง 4.4% ตอบว่าจะยังคงท่องเที่ยวภาคใต้อยู่