(เพิ่มเติม) กบง.มีมติเพิ่มเงินชดเชยดีเซลอีก 50 สต./ลิตร รวมชดเชยแล้ว 5.90 บ./ลิตร

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday April 7, 2011 17:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กบง.มีมติเพิ่มเงินชดเชยน้ำมันดีเซลอีก 50 สตางค์/ลิตร โดยมีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้(8 เม.ย.) เป็นต้นไป หลังจากที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาถึง 115 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งทำให้จนถึงปัจจุบันมีการชดเชยราคาให้น้ำมันดีเซลรวมแล้ว 5.90 บาท/ลิตร

การเพิ่มเงินชดเชยในครั้งนี้อีก 50 สตางค์/ลิตร ส่งผลให้มีเงินไหลออกจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 375 ล้านบาท จากเดิมวันละ 347 ล้านบาท หรือคิดเป็นเงินที่ไหลออกจากกองทุนฯ เดือนละ 11,271 ล้านบาท จากเดิมเดือนละ 10,436 ล้านบาท

ส่วนค่าการตลาดของผู้ค้าน้ำมันหลังจากที่รัฐบาลเพิ่มค่าการตลาดอีก 50 สตางค์/ลิตรในวันนี้ ทำให้ค่าการตลาดของผู้ค้าน้ำมัน ในส่วนของดีเซลอยู่ที่ประมาณ 1.02 บาท/ลิตร เบนซินอยู่ที่ 1.10-1.20 บาท/ลิตร ซึ่งเป็นระดับที่ผู้ค้าน้ำมันพออยู่ได้แต่ไม่มีกำไร โดยค่าการตลาดที่เหมาะสมต้องอยู่ที่ระดับ 1.50 บาท/ลิตร

สำหรับสถานะกองทุนน้ำมันฯ ล่าสุดเหลือเงินประมาณ 11,206 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะใช้ได้ถึงสิ้นเดือนเม.ย.นี้ ทั้งนี้ได้มีการชดเชยราคาน้ำมันดีเซลไปแล้วตั้งแต่ 17 ธ.ค.53 จนถึงปัจจุบันรวม 14 ครั้ง ใช้เงินไปแล้วประมาณ 19,350 ล้านบาท

ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานจะขอความร่วมให้ผู้ค้าน้ำมันต่างชาติที่ปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไปเกินกว่า 30 บาท/ลิตร ให้ปรับลดราคาลงมา อย่างไรก็ดี ก่อนช่วงวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้ง

รมว.พลังงาน กล่าวว่า ในวันที่ 27 เม.ย.ที่จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.)นั้น กระทรวงพลังงานจะเสนอให้มีการปรับเพิ่มเพดานราคาน้ำมันดีเซลให้เกิน 30 บาท/ลิตร และเสนอให้มีการปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเพื่อเป็นทางเลือกในการตรึงราคาน้ำมันต่อไป รวมทั้งเป็นการลดภาระกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงด้วย

ด้านนายบุญส่ง เกิดกลาง รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) กล่าวว่า เงื่อนไขที่จะนำไปหารือกับผู้ค้าน้ำมันเอกชนไม่ให้ปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลเกิน 30 บาท/ลิตรโดยเฉพาะในช่วงสงกรานต์ เนื่องจากผู้ค้าน้ำมันส่วนใหญ่ถือหุ้นในโรงกลั่นน้ำมันอยู่แล้ว และขณะนี้มีค่าการกลั่นหรือมาร์จิ้นอยู่ในระดับสูงที่ 1.70 บาท/ลิตร ดังนั้นจึงให้สามารถนำค่าการกลั่นที่อยู่ในระดับสูงมาเฉลี่ยกับค่าการตลาดที่อยู่ในระดับต่ำแทนได้

พร้อมกันนี้ ยังยืนยันว่าปริมาณน้ำมันที่จะจำหน่ายในช่วงสงกรานต์ทั้งของ ปตท.และบางจาก จะมีเพียงพอต่อความต้องการใช้ เนื่องจาก 2 บริษัทนี้เป็นผู้ค้ารายใหญ่ของประเทศและมีกำลังการกลั่นรวมกว่า 50% ของการจำหน่ายน้ำมันทั้งประเทศ ดังนั้นจึงมีปริมาณน้ำมันเพียงพอในช่วงสงกรานต์อย่างแน่นอน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ