นายกฯ คาดน้ำท่วมใต้รอบนี้เสียหายราวหมื่นลบ. มอบคชอ.เร่งช่วยเหลือฟื้นฟู

ข่าวเศรษฐกิจ Friday April 8, 2011 15:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี คาดว่า ตัวเลขความเสียหายจากเหตุภัยพิบิติในพื้นที่ภาคใต้รอบนี้อยู่ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยสัปดาห์หน้าประชาชนน่าจะเริ่มกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ ซึ่งการประชุมคณะกรรมการอำนวยการกำกับติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(คชอ.)วันนี้ ได้เร่งรัดให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ ที่สำคัญ 3 ส่วน

ส่วนแรก ด้านการคมนาคม-ขนส่ง ที่ประชุมได้มอบหมายให้ทั้งกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท เร่งซ่อมแซมถนนสายต่างๆ ที่เสียหายให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติภายในวันเสาร์นี้

ส่วนที่สอง ด้านน้ำประปาเพื่อการอุปโภค-บริโภค โดยเฉพาะที่สุราษฎร์ธานีนั้น การประปาส่วนภูมิภาค(กปภ.) ยืนยันว่าจะสามารถติดตั้งระบบประปาและจ่ายน้ำได้ตามปกติในเร็วๆ นี้ ส่วนที่สาม ด้านที่อยู่อาศัย จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหาย เพราะขณะนี้ประชาชนยังหวาดกลัวและไม่กล้ากลับเข้าไปในพื้นที่ ซึ่งได้มอบหมายให้ คชอ.สรุปแนวทางความช่วยเหลือทั้งหมดเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีครม.ในสัปดาห์หน้า

ส่วนเงินที่รัฐบาลจะให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยพิบัติครอบครัวละ 5,000 บาท ซึ่งมีบางครอบครัวยังตกค้างไม่ได้รับตั้งแต่การประสบอุทกภัยในปีก่อนนั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ผู้ประสบอุทกภัยที่ตกค้างไม่ได้รับเงินช่วยเหลือมีจำนวนน้อยมาก ยกเว้นบางพื้นที่ที่ไม่เข้าตามหลักเกณฑ์หรือไม่ผ่านเกณฑ์ที่รัฐบาลกำหนด และตัวเลขผู้ที่เข้าข่ายได้รับความช่วยเหลือในรอบนี้ อยู่ระหว่างการกลั่นกรอง ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลา 1-2 สัปดาห์จะสามารถตรวจสอบรายชื่อได้ทั้งหมด

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่พบว่าดัชนีทุกรายการในเดือนมี.ค.ปรับลดลงว่า ดัชนีที่ปรับลดลงเป็นผลจากภาวะสินค้าราคาแพง ซึ่งย่อมส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค แต่ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ละเลยกับปัญหาที่เกิดขึ้น โดยได้พยายามเข้าไปตรวจสอบและหาแนวทางการการแก้ไข

ส่วนปัญหาราคาสินค้าแพงนั้น หากพิจารณาจากราคาสินค้าแล้วยังอยู่ในระดับที่น้อยกว่าในช่วงปี 51 เพียงแต่ยอมรับว่าปัญหาราคาสินค้าแพงในช่วงที่ผ่านมาเป็นสินค้าส่วนใหญ่ที่ประชาชนมีความจำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น น้ำมันพืช จึงทำให้มองว่าเป็นผลกระทบในวงกว้าง แต่อย่างไรก็ดี ภาพรวมของปัญหาราคาสินค้าในขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมมากนัก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ