ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (13 เม.ย.) เนื่องจากตลาดขานรับรายงาน Beige Book ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งเป็นรายงานสำรวจภาวะเศรษฐกิจจากเฟดทั้ง 12 เขตในสหรัฐที่ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องในระดับปานกลางเกือบทั่วทั้งภูมิภาคในช่วงกลางเดือนก.พ.ถึงมี.ค. ซึ่งทำให้ตลาดมองว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้ แม้ว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ เผยแผนลดงบประมาณและจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นก็ตาม
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 7.41 จุด ส่วนดัชนี S&P 500 ปิดขยับขึ้น 0.25 หรือ 0.02% แตะที่ 1,314.41 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลดลง 16.73 จุด หรือ 0.61% แตะที่ 2,761.52 จุด
-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (13 เม.ย.) เนื่องจากสต็อกน้ำมันของสหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้วร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2554
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ค.ปรับตัวขึ้น 86 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 107.11 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนพ.ค.ดีดตัวขึ้น 3.02 เซนต์ หรือ 0.81% ปิดที่ ดอลลาร์/แกลลอน
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดสูงขึ้นเมื่อคืนนี้ (13 เม.ย.) เนื่องจากแรงซื้อเก็งกำไรหลังจากที่ราคาทองคำร่วงลงเมื่อวันก่อนหน้านี้ รวมทั้งขานรับคาดการณ์โดยจีเอฟเอ็มที่ว่า ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นถึง 13% ก่อนสิ้นปีนี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดบวก 2 ดอลลาร์ หรือ 0.1% แตะที่ 1,455.6 ดอลลาร์/ออนซ์
-- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์หลังจากประธานาธิบดีบารัค โอบามาเปิดเผยแผนลดงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2554 ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลสหรัฐจะสามารถลดยอดขาดดุลงบประมาณและหนี้สาธารณะได้
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.21% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.4445 ยูโร จากระดับของวันอังคารที่ 1.4476 ยูโร ขณะที่เงินปอนด์ขยับขึ้น 0.09% แตะที่ 1.6268 ปอนด์ จากกระดับ 1.6253 ปอนด์
-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (13 เม.ย.) เนื่องจากตลาดได้รับปัจจัยหนุนจากอัตราว่างงานอังกฤษที่ร่วงลง
ดัชนี FTSE 100 ปิดร่วงลง 45.97 จุด หรือ 0.77% แตะที่ 6,010.44 จุด