ธนาคารกลางจีนประกาศเพิ่มเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์อีก 0.50% โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 21 เม.ย.นี้เป็นต้นไป ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มเป็นครั้งที่ 4 ในปีนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะควบคุมเงินเฟ้อซึ่งอยู่ในระดับที่สูงอย่างต่อเนื่อง
มาตรการล่าสุดนี้จะทำให้เพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารรายใหญ่ภายในประเทศพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 20.5%
-- นายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนเปิดเผยในที่ประชุม Boao Forum for Asia (BFA) ประจำปี 2554 ว่า จีนยังคงจำเป็นต้องใช้เวลาเพื่อเตรียมตัวอีกระยะหนึ่ง ก่อนที่จะนำสกุลเงินหยวนไปรวมในตะกร้าสกุลเงิน SDR ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)
นอกจากนี้ นายโจวกล่าวว่า จีนจะยังคงผลักดันการปฏิรูปการเงิน รวมทั้งการแปลงสภาพสกุลเงินหยวน และการทำให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
-- แบงก์ ออฟ คอมมูนิเคชันส์ คาดการณ์ว่า แรงกดดันด้านเงินเฟ้อของจีนจะยังคงอยู่ในระดับสูงในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ แต่คาดว่าจะเริ่มบรรเทาลงในช่วงครึ่งหลังของปี
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (เอ็นบีเอส) เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) เดือนมี.ค.ของจีน พุ่งขึ้น 5.4% จากปีก่อน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 32 ปี ส่วนดัชนีซีพีไอไตรมาสแรกขยายตัว 5%
รายงานของแบงก์ ออฟ คอมมูนิเคชันระบุว่า ปัจจัยที่จะทำให้ดัชนีซีพีไอของจีนยังคงเคลื่อนไหวในระดับสูงในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ มาจากนโยบายการเงินผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของสหรัฐ, ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้น และเศรษฐกิจภายในประเทศที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว
-- กระทรวงการคลังจีนเปิดเผยว่า รายได้ด้านการคลังในไตรมาสแรกของจีนพุ่งขึ้น 33.1% จากปีก่อน แตะระดับ 2.61 ล้านล้านหยวน (4.0154 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ)
รายได้ด้านการคลังของรัฐบาลกลางจีนอยู่ที่ระดับ 1.306 ล้านล้านหยวน พุ่งขึ้น 31.5% จากปีที่แล้ว ขณะที่รายได้ด้านการคลังของรัฐบาลท้องถิ่นอยู่ที่ระดับ 1.307 ล้านล้านหยวน พุ่งขึ้น 34.7% สำนักข่าวซินหัวรายงาน