สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 เม.ย.) เพราะถูกกดดันจากกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไป ซึ่งทำให้นักลงทุนเข้าซื้อสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่า ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลก
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 1.28% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.4518 ยูโร จากระดับของวันอังคารที่ 1.4335 ยูโร และดิ่งลง 0.53% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ระดับ 1.6402 ปอนด์ จากระดับ 1.6316 ปอนด์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 1.31% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8881 ฟรังค์ จากระดับของวันอังคารที่ 0.8999 ฟรังค์ และอ่อนตัวลง 0.17% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 82.420 เยน จากระดับ 82.560 เยน
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 1.59% แตะที่ 1.0693 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.0526 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.91% แตะที่ 0.7959 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7887 ดอลลาร์สหรัฐ
นักลงทุนเทขายสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และหันไปซื้อสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่า โดยเฉพาะสกุลเงินของประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าสหรัฐ หลังจากมีกระแสคาดการณ์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0-0.25% ต่อไปจนถึงปลายปีนี้ และเดินหน้าโครงการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง (QE2) ไปจนจบโครงการในกลางปีนี้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้เม็ดเงินสกุลดอลลาร์ในระบบมีปริมาณสูงมาก และจะทำให้มูลค่าของดอลลาร์อ่อนแอลง
ทั้งนี้ เฟดได้ตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำมาตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีพ.ศ.2551 ในขณะที่ธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลกได้พากันปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมถึงธนาคารกลางยุโรป
ค่าเงินยูโรได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่ารัฐบาลสามารถระดมทุนได้อีก 1.625 พันล้านยูโร หรือ 2.31 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ผ่านการขายพันธบัตรอายุ 3 เดือนครั้งล่าสุด โดยให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร 4.1% สูงกว่าการประมูลในเดือนก.พ.ที่ 3.85% ซึ่งนักวิเคราะห์บางคนมองว่า ความสำเร็จในการขายพันธบัตรครั้งนี้ถือเป็นทดสอบความเชื่อมั่นของตลาดการเงินที่มีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจกรีซ
สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะของกรีซ (PDMA) เปิดเผยว่า เดิมทีนั้นรัฐบาลกรีซมีเป้าหมายที่จะระดมทุน 1.25 พันล้านยูโร หรือ 1.78 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากการขายพันธบัตรครั้งนี้ แต่เนื่องจากความต้องการพันธบัตรกรีซเพิ่มขึ้น จึงทำให้ยอดการระดมทุนในครั้งนี้สูงกว่าเมื่อเดือนก.พ.
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นเพราะได้ปัจจัยหนุนจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกที่ยังคงปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากออสเตรเลียมีรายได้หลักจากการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงโลหะ
ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ได้ปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ซึ่งเป็นดัชนีวัดเงินเฟ้อหลักภายในประเทศ เพิ่มขึ้น 0.8% ในไตรมาสแรกปีนี้ แตะระดับ 4.5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง
สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.7% แตะระดับ 5.10 ล้านยูนิตต่อปี มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.5% แตะระดับ 5 ล้านยูนิตต่อปี ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐ
ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนมี.ค.