สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กทำสถิติปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 เม.ย.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 9 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำทะยานขึ้นทำนิวไฮเมื่อวันจันทร์
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปรับตัวลง 5.60 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือ 0.37% แตะที่ 1,503.50 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,492.00-1,508.50 ดอลลาร์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 209.90 เซนต์ ปิดที่ 45.050 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 1.6 เซนต์ ปิดที่ 4.319 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ร่วงลง 22.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,805.40 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลง 5.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 755.70 ดอลลาร์/ออนซ์
ไมค์ ดาลีย์ นักวิเคราะห์ด้านทองคำจากบริษัท PFGBEST กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้สัญญาทองคำปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 9 วันทำการมาจากการที่เทรดเดอร์บางกลุ่มระมัดระวังการซื้อขายและเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำทะยานขึ้นไปแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ไมค์มองว่า ทั้งสัญญาทองคำและโลหะเงินมีแรงซื้อส่งเข้ามามากเกินไป โดยในเดือนนี้ สัญญาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดถึง 11 ครั้ง
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่นักลงทุนลดความต้องการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.ของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับ 65.4 จุด จากเดือนมี.ค.ที่ระดับ 63.8 จุด มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 64.8 จุด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นักลงทุนในตลาดทองคำนิวยอร์กติดตามดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในคืนวันพุธที่ 27 เม.ย.ตามเวลาประเทศไทย รวมทั้งการแสดงความคิดเห็นของเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดที่จะประเมินว่า คณะกรรมการเฟดควรจะยุติโครงการซื้อพันธบัตรหรือไม่