บริษัทที่ทำธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ของจีนซึ่งจดทะเบียนในตลาดหุ้นส่วนใหญ่ได้รายงานตัวเลขผลประกอบการที่สูงขึ้นในไตรมาสแรกของปีนี้ แม้ว่าตัวเลขดังกล่าวจะอ่อนตัวลงเมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงฤดูกาลที่ซบเซาอยู่แล้ว แต่เหตุแผ่นดินไหวและวิกฤตนิวเคลียร์ที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นนั้น ทำให้นักวิเคราะห์ในวงการหลายรายได้ปรับลดการคาดการณ์เรื่องการขยายตัว
เฉินหยิ่น แอนด์ หวังกัว ซิเคียวริตีส์ เปิดเผยในรายงานการวิเคราะห์ว่า ผลประกอบการของบริษัทในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นนั้นมีอัตราการขยายตัวที่สดใส นับตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังของปีที่แล้ว เนื่องจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมและความสามารถในการผลิตที่ขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
แต่เหตุแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นอาจจะทำให้สถานการณ์ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกผันผวนขึ้นมาอีกครั้ง
โบรกเกอร์ระบุว่า เหตุแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิที่ญี่ปุ่น วิกฤตนิวเคลียร์ ปัญหาไฟฟ้าขาดแคลน และความยากลำบากในด้านคมนาคมส่งผลกระทบอย่างมากกับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก โดยความสามารถในการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และวัตถุดิบก็ได้รับผลกระทบไปด้วยเช่นกัน ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจจะทำให้ห่วงโซ่อุปทานได้รับความเสียหายตามไปด้วย
สต็อกสินค้าของบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ปัจจุบันนั้น ยังอยู่ในระดับที่เพียงพอสำหรับการใช้งาน 1-2 เดือน และไตรมาส 2 จะเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่จะได้เห็นผลกระทบโดยรวมที่เกิดขึ้นจากเหตุแผ่นดินไหว
เหว่ย ซิงหยุน นักวิเคราะห์ของกัวไถ่ แอนด์ จูหนาน ซิเคียวริตีส์ กล่าวว่า อุตสาหกรรมเซมิคอนดัคเตอร์ทั่วโลกในปีนี้คาดว่า จะขยายตัวในระดับปานกลางเช่นเดียวกับช่วงก่อนทีจะถึงปี 2551 อย่างไรก็ดี หลังจากที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวในญี่ปุ่นแล้ว ซึ่งทำให้มีการคาดการณ์เรื่องการบริโภคที่ลดลง คาดว่า วัตถุดิบสำคัญๆที่ใช้ในการผลิตเซมิคอนดัคเตอร์จะขาดแคลนและส่งผลลบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดัคเตอร์ทั่วโลกในปีนี้
ซุน หัว นักวิเคราะห์ของหัวไถ่ ซิเคียวริตีส์ เชื่อว่า การผลิตและส่งออกอุปกรณ์เครื่องจักร ชิ้นส่วน และอุปกรณ์ต่างๆจะขัดข้องหรือชะลอตัวลง โดยผู้ผลิตอุปกรณ์เครื่องจักรของจีนก็จะได้รับผลกระทบหลังจากที่เกิดแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น
ในทางตรงกันข้ามนั้น หากอุปทานจากญี่ปุ่นไม่สามารถฟื้นตัวขึ้นได้ในระยะเวลาอันใกล้นี้ และเมื่อสต็อกของห่วงโซ่อุปทานหมดลง ซัพพลายเออร์จีนที่เป็นตัวแทนบางรายก็อาจจะมีโอกาสเข้ามาแทนที่ แต่ราคาวัตถุดิบนั้นคงจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคงจะทำให้อัตราการขยายตัวของกำไรบริษัทที่จดทะเบียนนั้นชะลอตัวลง
หวาง ยูกวน นักวิเคราะห์ของตงซิง ซิเคียวริตีส์ กล่าวว่า เหตุแผ่นดินไหวญี่ปุ่นทำลายห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และการที่บริษัทผู้ผลิตส่วนประกอบและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกของจีนก็ยังไม่สามารถเข้ามาแทนที่การผลิตของบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ของญี่ปุ่นได้ สถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบด้านลบต่อบริษัทจดทะเบียนของจีนในที่สุด
นอกจากนี้ การขยายขอบเขตความสามารถในการผลิตขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในปีนี้ อาจจะทำให้เกิดภาวะอุปทานสูงเกินไปและทำให้ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทที่เกี่ยวข้องลดลงด้วย สำนักข่าวซินหัวรายงาน