นายเจิ้น เหลียนเจิน นักวิเคราะห์ด้านการเงินจากสถาบันสังคมศาสตร์ของจีนกล่าวว่า แม้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศว่าจะยุติโครงการซื้อพันธบัตรวงเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์ หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง (QE2) ในกลางปีนี้ แต่ก็ไม่ช่วยให้แรงกดดันด้านเงินเฟ้อในประเทศจีนลดลงได้
นายเจิ้นกล่าวว่า การที่คณะกรรมการเฟดตัดสินใจใช้มาตรการ QE2 ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย.ปี 2553 ด้วยการทยอยซื้อพันธบัตรในสัดส่วน 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนไปจนถึงกลางปี 2554 นั้น ส่งผลให้มีกระแสเงินทุนทลักเข้าสู่กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ รวมถึงจีน เป็นจำนวนมาก และทำให้ประเทศกลุ่มนี้ต้องเผชิญกับปัญหาเงินเฟ้อ
นอกจากนี้ แม้ว่าเฟดตัดสินใจที่จะยุติโครงการ QE2 ในช่วงกลางปีนี้ แต่เนื่องจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อในสหรัฐกำลังสูงขึ้นเนื่องจากความอ่อนแอของสกุลเงินดอลลาร์ จึงทำให้มีความเป็นไปได้ว่าเฟดจะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกสูงขึ้นอีก และทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกยังคงอยู่ในวงจรเงินเฟ้อในที่สุด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในการประชุมกำหนดนโยบายเมื่อวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น คณะกรรมการเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ย 0-0.25 % และยืนยันว่าจะเดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลวงเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์ต่อไปจนสิ้นสุดโครงการในเดือนมิ.ย.ปี 2554 โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการจ้างงาน