บรรดานักวิเคราะห์กล่าวว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) เดือนเมษายนของจีน ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพุธนี้ มีแนวโน้มปรับตัวลดลงหรือทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม อันเป็นผลมาจากการคุมเข้มนโยบายการเงินของรัฐบาล
อย่างไรก็ดี ไชน่า ซิเคียวริตีส์ เจอร์นัล เชื่อว่าเงินเฟ้อเดือนเมษายนจะยังอยู่เหนือระดับ 5% เนื่องจากไม่มีแนวโน้มว่ามูลค่าเพิ่มในอุตสาหกรรมและการลงทุนในสินทรัพย์คงที่จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่ราคาผักที่ลดลงอย่างมากและการที่ผลิตภัณฑ์หลายรายการชะลอการปรับขึ้นราคาอาจส่งผลกระทบต่อดัชนีซีพีไอเดือนเมษายน
สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนรายงานว่า ซีพีไอจีนซึ่งเป็นปัจจัยวัดเงินเฟ้อ ขยายตัว 5.4% ในเดือนมีนาคมเมื่อเทียบรายปี โดยได้รับแรงขับจากราคาอาหารที่สูงขึ้นและเงินเฟ้อจากการนำเข้า ขณะที่เงินเฟ้อในช่วงไตรมาสแรกอยู่ที่ 5%
นายจู เจียนฝาง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก ซิติก ซิเคียวริตีส์ คาดการณ์ว่าซีพีไอจีนจะขยายตัว 5% เมื่อเทียบรายปีในเดือนเมษายน ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ) ซึ่งเป็นปัจจัยวัดเงินเฟ้อระดับค้าส่ง จะขยายตัว 7.3% เมื่อเทียบรายปี เท่ากับในเดือนมีนาคม
ส่วนทางด้าน โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า เงินเฟ้อเดือนเมษายนจะขยายตัว 5.1% เนื่องจากราคาเนื้อหมูปรับตัวสูงขึ้น ขณะเดียวกันก็คาดว่าดัชนีพีพีไอจะขยายตัว 7.1% ในเดือนเมษายน
สำหรับ ไชน่า อินเตอร์เนชั่นแนล แคปิตอล (CICC) คาดการณ์ว่า เงินเฟ้อเดือนเมษายนจะยังอยู่ในระดับสูงที่ 5.4% เท่ากับเดือนมีนาคม เนื่องจากราคาผลิตผลทางการเกษตรและสินค้าที่ไม่ใช่อาหารปรับตัวสูงขึ้น ธนาคารกลางจีนประกาศปรับเพิ่มเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ 4 ครั้ง และขึ้นดอกเบี้ย 2 ครั้งนับตั้งแต่ต้นปี เพื่อจัดการกับสภาพคล่องที่มากเกินไปและเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
นอกเหนือจากตัวเลขซีพีไอแล้ว สำนักงานสถิติแห่งชาติยังจะเปิดเผยข้อมูลมูลค่าเพิ่มในอุตสาหกรรม การลงทุนในสินทรัพย์คงที่ และยอดค้าปลีกสินค้าผู้บริโภคด้วย
บรรดานักวิเคราะห์กล่าวว่า แม้ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (พีเอ็มไอ) ภาคการผลิต ซึ่งเป็นปัจจัยวัดแนวโน้มการขยายตัวของอุตสาหกรรม จะปรับลดลงแตะ 52.9% ในเดือนเมษายน จาก 53.4% ในเดือนมีนาคม ซึ่งบ่งชี้ว่าอุปสงค์ลดลงเล็กน้อย แต่เศรษฐกิจจีนยังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง สำนักข่าวซินหัวรายงาน