ผลสำรวจระบุชาวกรีซ 8 ใน 10 คนมีมุมมองในแง่ลบต่อสถานะการเงินของพวกเขาเองและต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต ขณะที่ประธาธิบดีคาโรลอส ปาปูลิอาส และนายจอร์จ ปาปันเดรอู นายกรัฐมนตรีกรีซได้เรียกร้องให้ประชาชนมีความเป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อรับมือกับวิกฤตหนี้สิน
"ประชาชนทั้งประเทศจำเป็นต้องร่วมมือกันเพื่อให้เราบรรลุเป้าหมาย" นายปาปูลิอาสกล่าวในระหว่างการประชุมกับนายปาปันเดรอู ซึ่งได้สรุปความเคลื่อนไหวล่าสุดด้านเศรษฐกิจที่อ่อนแอให้ผู้นำประเทศรับทราบ
นายกรัฐมนตรีกรีซมีความแน่วแน่ที่จะเดินหน้าในแนวทางของเขาต่อไป แม้ว่าการดำเนินแนวทางดังกล่าวจะมีต้นทุนทางการเมือง โดยเขาได้ออกมาขอแรงสนับสนุนจากชาวกรีซทั้งหมดอีกครั้งในการสร้างความเปลี่ยนแปลงเพื่อรับมือกับวิกฤตนี้ ขณะเดียวกันก็ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า ประชาชนส่วนใหญ่ตระหนักดีว่ามาตรการนี้จำเป็นต่อการผลักดันให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้
อย่างไรก็ตาม ผลการสำรวจความคิดเห็นจาก 2 สำนักที่เผยแพร่เมื่อวานนี้ เผยให้เห็นถึงความกังวลเป็นวงกว้างเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการใช้นโนบายต่างๆ
ผลสำรวจที่จัดทำโดยสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งเอเธนส์ระบุว่า 77% ของชาวกรีซมีข้อกังขาเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลสังคมนิยม และมีมุมมองในแง่ลบต่อสถานการณ์การเงินระยะสั้นของครอบครัวและของประเทศ
ขณะที่ผลสำรวจซึ่งจัดทำขึ้นสำหรับสถานีโทรทัศน์ เมก้า พบว่า 71% ของผู้ตอบแบบสอบถามไม่ยอมรับนโยบายของรัฐบาล นอกจากนี้ 60% ของชาวกรีซเรียกร้องให้มีการนำข้อตกลงขอรับความช่วยเหลือทางการเงินแลกเปลี่ยนกับมาตรการรัดเข็มขัด ซึ่งรัฐบาลกรีซได้ทำร่วมกับสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เมื่อเดือนพ.ค.ปีที่แล้ว กลับมาเจรจากันใหม่อีกครั้ง
โดยผลสำรวจล่าสุดพบว่า 45% ของชาวกรีซไม่สนับสนุนแนวความคิดเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซ ในขณะที่นักวิเคราะห์ต่างชาติบางส่วนสนับสนุนแนวคิดดังกล่าว แต่ทว่าเสียงส่วนใหญ่ 47-65% ให้การสนับสนุนด้านการแปรรูปรัฐวิสาหกิจและแปรสินทรัพย์ในภาคอสังหาริมทรัพย์เพื่อหาทางออกของวิกฤตการณ์ในครั้งนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน