สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 15 ดอลลาร์เมื่อวันคืนนี้ (11 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำทะยานขึ้นแข็งแกร่งติดต่อกันหลายวัน นอกจากนี้ สกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโรและสัญญาน้ำมันดิบที่ถูกกระหน่ำขายอย่างหนัก ยังสร้างแรงกดดันให้กับตลาดทองคำเช่นกัน
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 15.50 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 1,501.40 ดอลลาร์/ออนซ์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.ร่วงลง 2.971 ดอลลาร์ ปิดที่ 35.515 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ค.ดิ่งลง 12.85 เซนต์ ปิดที่ 3.9135 ดอลลาร์/ปอนด์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ดิ่งลง 23.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,777.8 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 17.25 ดอลลาร์ ปิดที่ 715.40 ดอลลาร์/ออนซ์
เทรดเดอร์กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาทองคำร่วงลงอย่างหนักมาจากแรงขายทำกำไร หลังจากราคาทะยานขึ้นแข็งแกร่งติดต่อกัน 3 วันทำการ และจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินที่เป็นคู่ค้าหลักของสหรัฐ แข็งค่าขึ้นเมื่อคืนนี้ ซึ่งกระตุ้นให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำ เพราะดอลลาร์ที่แข็งค่าจะทำให้สัญญาทองคำมีราคาแพงขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น
นอกจากนี้ การร่วงลงอย่างหนักของราคาน้ำมันดิบ NYMEX ยังเป็นอีกปัจจัยที่กดดันให้นักลงทุนกระหน่ำขายสัญญาโลหะมีค่า โดยสัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลุดจากระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อคืนนี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบและเบนซินพุ่งขึ้นเกินคาด
ไมค์ ดาลี ผู้เชี่ยวชาญด้านทองคำจากบริษัท PFGbest ในเมืองชิคาโกกล่าวว่า "แรงกดดันในตลาดทองคำยังคงสูงมาก และนักลงทุนต้องการปรับสถานะการลงทุนด้วยการเทขายทำกำไรเมื่อมีโอกาส"