นพ.มารุต มัสยวาณิช รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รายงานถึงดัชนีราคาและผลผลิตสินค้าเกษตรในเดือนเมษายนและแนวโน้มในเดือนพฤษภาคม 2554 ว่า ภาพรวมราคาสินค้าเกษตรของเดือนเมษายนเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมามีดัชนีราคาสินค้าเกษตรสูงขึ้นร้อยละ 22.28
โดยสินค้าสำคัญที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ มันสำปะหลัง สับปะรดโรงงาน ยางพารา ปาล์มน้ำมัน สุกร ไก่เนื้อ และไข่ไก่ โดยมันสำปะหลังราคาสูงขึ้น เนื่องจากปัญหาขาดแคลนธัญพืชโลก ทำให้มีความต้องการใช้เพื่อทดแทนธัญพืชอื่นมากขึ้น
สับปะรดโรงงาน ราคาสูงขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว ทำให้กำลังซื้อของตลาดหลัก โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้น
ยางพารา ราคาสูงขึ้น เนื่องจากการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจโลก ทำให้ปริมาณความต้องการเพิ่มขึ้นประกอบกับราคาน้ำมันที่ สูงขึ้น
ปาล์มน้ำมัน ราคาสูงขึ้น เนื่องจากคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ขอความร่วมมือให้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มรับซื้อผลปาล์มน้ำมัน ที่เปอร์เซ็นต์น้ำมันมากกว่า 17 ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 6 บาท
สำหรับ สุกร ไก่เนื้อ และไข่ไก่ ราคาสูงขึ้น เนื่องจากต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้น และความแปรปรวนของสภาพอากาศ ทำให้ผลผลิตลดลง เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมา ดัชนีราคา สูงขึ้น ร้อยละ 5.54 โดยสินค้าที่ราคาปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ ยางพารา สุกร ไก่เนื้อ และไข่ไก่
โดยยางพารา ราคาสูงขึ้น เนื่องจากในช่วงเดือนมีนาคม ประเทศญี่ปุ่น ประสบสึนามิ ทำให้ราคาตลาดล่วงหน้า TOCOM ปรับตัวลดลงและเข้าสู่ภาวะปกติในช่วงปลายเดือนมีนาคม ต่อเนื่องต้นเดือนเมษายน ประกอบกับผลผลิตในเดือนเมษายน ลดลงเนื่องจากเป็นช่วงยางผลัดใบ
สุกร และไก่เนื้อ ราคาสูงขึ้น เนื่องจากผลผลิตลดลง จากสภาพอากาศที่ร้อนและแปรปรวน และไข่ไก่ ราคาสูงขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศร้อน และแปรปรวน และเป็นโรคระบบทางเดินหายใจ
ส่วนสินค้าที่ราคาปรับตัวลดลง ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า ความชื้น 14-15% ราคาลดลง เนื่องจาก ผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น ประกอบกับมีฝนตก และปัญหาเพลี้ยระบาดในบางพื้นที่ ทำให้คุณภาพไม่ค่อยดี
ปาล์มน้ำมัน ราคาลดลง เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น ประกอบกับราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาดโลกลดลง ในเดือนพฤษภาคม 2554 คาดว่า ดัชนีราคาจะปรับตัวลดลง เนื่องจากสินค้าสำคัญหลายชนิดออกสู่ตลาดมากขึ้น ได้แก่ สับปะรดโรงงาน ปาล์มน้ำมัน และผลไม้ภาคตะวันออก
ภาพรวมด้านการผลิตสินค้าเกษตร เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาดัชนีผลผลิต ลดลง ร้อยละ 14.87 สินค้าสำคัญที่ผลผลิตลดลง ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 14-15% ส่วนสินค้าที่ผลผลิต สูงขึ้น ได้แก่ มันสำปะหลัง ยางพารา สับปะรดโรงงาน และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ดัชนีผลผลิต ลดลง ร้อยละ 34.96 สินค้าสำคัญที่ผลผลิต ลดลง ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 14-15% และยางพารา สินค้าสำคัญที่มีผลผลิต สูงขึ้น ได้แก่ สับปะรดโรงงาน ปาล์มน้ำมัน สุกร และไก่เนื้อ
ในเดือนพฤษภาคม 2554 คาดว่าดัชนีผลผลิตในภาพรวมจะสูงขึ้นจากเดือนที่ผ่านมา เพราะมีผลผลิตสินค้าสำคัญหลายชนิดออกสู่ตลาดมากขึ้น ได้แก่ ปาล์มน้ำมัน และผลไม้ภาคตะวันออก
ผลผลิตที่ออกสู่ตลาดมากในเดือนพฤษภาคม ได้แก่ สับปะรดโรงงาน ปาล์มน้ำมัน ทุเรียน มังคุด เงาะ และลิ้นจี่ คิดเป็นร้อยละ 13.41, 11.03, 30.70, 22.79, 18.43 และ 63.95 ของผลผลิตทั้งหมด ตามลำดับ