สศอ.เร่งเพิ่มประสิทธิภาพ SMEs พุ่งเป้าลดต้นทุน 5% ก้าวสู่โลกการแข่งขัน

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday May 24, 2011 10:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสุทธินีย์ พู่ผกา ผู้อำนวยการสำนักงานเศรฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สศอ.ได้เร่งดำเนินโครงการด้านยกระดับประสิทธิภาพ SMEs ภายใต้แผนแม่บทการเพิ่มประสิทธิภาพและผลิตภาพของภาคอุตสาหกรรมไทย(Productivity) ปี 54 ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างน่าพอใจ เนื่องจากผู้ประกอบการให้ความสำคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการลดต้นทุนการผลิต เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันที่สูงขึ้น โดยได้มีการจัดส่งทีมที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านกว่า 5,000 คน ลงพื้นที่วิเคราะห์ปัญหาและหาแนวทางแก้ไขถึงสถานประกอบการในทุกขั้นตอนการผลิต

จนถึงขณะนี้ดำเนินการอยู่ในเดือนที่ 7 มีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการประมาณ 840 โรงงาน ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ 900 โรงงาน และจะช่วยให้ผู้ประกอบการมีต้นทุนการผลิตลดลง 5%

"มั่นใจว่าการดำเนินโครงการในปีงบประมาณนี้จะได้รับความสนใจมากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ เนื่องจากกลุ่มผู้ประกอบการไทยได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ทำให้มีคำสั่งซื้อเข้ามาจำนวนมากจึงจำเป็นต้องเร่งพัฒนาประสิทธิภาพให้สูงขึ้นเพื่อความพร้อมในการแข่งขันทางธุรกิจในทุกๆ ด้าน" นางสุทธินีย์ กล่าว

ผู้อำนวยการ สศอ. กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเน้นที่ผู้ประกอบการ SMEs ทั่วประเทศ ครอบคลุม 19 สาขาอุตสาหกรรม โดยใช้ผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพที่ สศอ.สร้างเครือข่ายไว้จากทั้งหน่วยงานภาครัฐภาคเอกชน ตลอดจนสถาบันการศึกษา ซึ่งปีนี้ได้เร่งดำเนินการในเรื่องที่จำเป็นหลายเรื่องเพื่อรองรับทิศทางการขยายตัวของกลุ่ม SMEs เช่น อุตสาหกรรมอาหาร เน้นเรื่องการพัฒนาระบบบริหารจัดการเพื่อให้ได้การรับรองมาตรฐาน HACCP การจัดการสิ่งแวดล้อม การได้รับฉลาก Carbon Label สาขาอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เน้นการประยุกต์ใช้แนวคิดการผลิตที่ดีเลิศและปรับปรุงประสิทธิภาพด้วยระบบTPM และการพัฒนาการออกแบบและการผลิตผ้าผืนเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนและประเทศในกลุ่ม BIMSTEC เป็นต้น

นอกจากนี้จะดำเนินงานในลักษณะเดียวกันในสาขาอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกหลายสาขา เช่น อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์,อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์, อุตสาหกรรมเหล็ก, อุตสาหกรรมยา, อุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือน, อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ, อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์, อุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือ, อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์, อุตสาหกรรมคอมโพสิท, อุตสาหกรรมเซรามิก, อุตสาหกรรมถุงมือยาง, อุตสาหกรรมทองเหลือง, อุตสาหกรรมสี และอุตสาหกรรมของเล่น

นางสุทธินีย์ กล่าวว่า จุดอ่อนที่สำคัญของ SMEs ไทย คือ การมีผลิตภาพต่ำ เนื่องจากผู้ประกอบการและพนักงานของ SMEs ส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ความสามารถและทักษะในด้านต่างๆ ที่มีผลต่อการเพิ่มผลิตภาพ เช่นความรู้ในการปรับปรุงการผลิต, การพัฒนาระบบคุณภาพ, การจัดการสิ่งแวดล้อม หรือการจัดการโลจิสติกส์ รวมทั้งยังขาดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและ ICT ตลอดจนความรู้ในการสร้างนวัตกรรม ซึ่งจุดอ่อนเหล่านี้เป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับ SMEs ในการขยายตลาดหรือรักษาตำแหน่งการแข่งขันของตนเองในตลาด โดยเฉพาะในอนาคตอันใกล้ที่ประเทศไทยจะเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนเต็มรูปแบบการแข่งขันจะเพิ่มมากขึ้นทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศต่อไป


แท็ก อุตสาหกรรม   SME  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ