Analysis: ผู้เชี่ยวชาญชี้จีนคิดหนักเรื่องนโยบายคุมเข้ม หลังศก.ส่งสัญญาณชะลอตัว

ข่าวต่างประเทศ Friday May 27, 2011 17:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

การควบคุมเศรษฐกิจมหภาคของจีนกำลังเผชิญกับจุดตัดสินใจครั้งสำคัญ เมื่ออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอตัวลง ดังเห็นได้จากผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกเดือนเม.ย.ที่ลดลง ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ที่ HSBC ได้สำรวจนั้น อ่อนตัวลงมาอยู่ที่ 51.1 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน บ่งชี้ถึงภาคการผลิตที่หดตัวลง

จวง เจียน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำสำนักงานตัวแทนในประเทศจีนของธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) กล่าวว่า นโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอตัวลง อย่างไรก็ดี เขามองว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในอนาคตไม่น่าจะต่ำกว่า 8% นายจวงระบุว่า จีนได้เสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านการเติบโตผ่านการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ พร้อมกับชี้ว่า การพัฒนาเมืองและการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคจะทำให้เศรษฐกิจมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก

ด้านนายเผิง เหวินเซิง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของไชน่า อินเตอร์เนชั่นแนล แคปิตอล คอร์ป (CICC) กล่าวว่า ยังไม่มีแนวโน้มว่าเศรษฐกิจจีนจะร่วงลงอย่างรุนแรง เนื่องจากความต้องการภายนอกยังมีเสถียรภาพ ซึ่งสะท้อนให้เห็นได้จากยอดส่งออกที่แข็งแกร่งของจีนในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

แม้นักเศรษฐศาสตร์หลายรายยังคงสงวนท่าที โดยระบุว่ายังเร็วเกินไปที่จะบอกได้ว่าเศรษฐกิจจีนจะประสบภาวะ Stagflation (ภาวะที่เศรษฐกิจซบเซาขณะที่เงินเฟ้อคงอยู่ในระดับสูง) หรือไม่ แต่การใช้มาตรการคุมเข้มต่างๆเพื่อสกัดเงินเฟ้อนั้น ได้เริ่มส่งผลกระทบด้านลบต่อเศรษฐกิจแล้ว

โดยนักเศรษฐศาสตร์มีมุมมองต่อแนวโน้มเศรษฐกิจจีนในอนาคตว่า จีนยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนักที่จะได้มาซึ่งนโยบายควบคุมเศรษฐกิจมหภาคที่มีความเหมาะสม

ปา ชูซง นักวิจัยที่ศูนย์การวิจัยและพัฒนาของคณะรัฐมนตรีจีน กล่าวว่า รัฐบาลได้รับการเตือนถึงความเป็นไปได้ที่มาตรการคุมเข้มด้านการเงินอาจจะสร้างแรงกดดันต่อเศรษฐกิจ

ขณะที่ องค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD) ระบุในรายงานว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปี 2554 จะถูกจำกัดโดยนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้น ดังนั้น รัฐบาลอาจจะชะลอการดำเนินโครงการที่มีความเข้มงวด

ด้านหวัง เจียน เลขาธิการสมาคมเศรษฐกิจมหภาคจีน กล่าวว่า จีนคงจะใช้มาตรการควบคุมเศรษฐกิจมหภาคต่อไปตลอดช่วงสังเกตการณ์ในไตรมาส 2 และ 3 ของปีนี้ และคาดว่าจีนจะปรับสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ในไตรมาส 2 และ 3 แต่จะยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ย สำหรับการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงนั้น เขามองว่า จีนอาจจะเปลี่ยนมาใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายในไตรมาส 4 สำนักข่าวซินหัวรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ