นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในวอลล์สตรีทคาดว่า ยอดขาดดุลการค้าเดือนเม.ย.ของสหรัฐจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 4.89 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน จากเดือนมี.ค.ที่ระดับ 4.82 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากต้นทุนน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น
ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนการนำเข้าของสหรัฐเพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันยังส่งผลให้อุปสงค์ในภาคส่วนต่างๆของสหรัฐซบเซาลง โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ค.ขยายตัวที่ระดับ 53.5 จุด ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนเม.ย.ที่ขยายตัวได้ดีถึง 60.4 จุด และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 57.7 จุด
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศประจำเดือนเม.ย. ซึ่งจะครอบคลุมถึงรายงานยอดขาดดุลเดือนเม.ย.ในวันพฤหัสบดีนี้ นอกจากนี้ ทางการสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนเม.ย.ในวันพฤหัสบดีเช่นกัน