ธนาคารกลางญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดการปล่อยกู้ของธนาคารของญี่ปุ่นลดลง 0.8% ในเดือนพ.ค.จากปีที่แล้ว แต่เป็นการปรับตัวลงในอัตราที่น้อยที่สุดในรอบกว่า 1 ปี ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ความต้องการเงินสดที่สูงขึ้นจากภาคธุรกิจซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดุลบัญชีเงินกู้รายวันโดยเฉลี่ยปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 18 ติดต่อกัน มาอยู่ที่ 393.01 ล้านล้านเยน ซึ่งบ่งชี้ว่า หลายบริษัทยังคงลังเลที่จะใช้จ่ายเงินทุนรอบใหม่ ขณะที่แนวโน้มของเศรษฐกิจประเทศยังซบเซา
ทั้งนี้ บริษัทเอกชนและประชาชนยังคงถือเงินสดไว้ ขณะที่ปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M1 ขยายตัวขึ้น 4.6% ในเดือนพ.ค. แตะ 520.5 ล้านล้านเยน หลังจากที่ได้มีการทบทวนให้สูงขึ้น 5.0% ในเดือนมี.ค.
ภัยพิบัติเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ในพื้นที่ตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นนั้นส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมต่างๆเป็นวงกว้าง ทั้งภาคการผลิตไปจนถึงการเกษตรและประมง ส่งผลให้ความต้องการเงินทุนในการดำเนินงานจากกลุ่มที่ได้รับผลกระทบนั้นมีมากขึ้น เพื่อเดินหน้าธุรกิจของตนเองต่อไป
ทั้งนี้ ยอดการปล่อยกู้ของธนาคารในระดับภูมิภาคเพิ่มขึ้น 1.3% แตะ 195.72 ล้านล้านเยน สะท้อนให้เห็นว่าสถาบันการเงินขนาดเล็กนั้นมีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูประเทศหลังจากที่เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ ส่วนยอดการปล่อยเงินกู้ของธนาคารขนาดใหญ่กว่าที่มีสาขาทั่วประเทศหดตัวลง 0.8% แตะ 393.01 ล้านล้านเยน