ผลการสำรวจรายไตรมาสของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) บ่งชี้ว่า ยอดการถือครองเงินสดของภาคธุรกิจญี่ปุ่น ณ สิ้นเดือนมี.ค.พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 211.12 ล้านล้านเยน และมีแนวโน้มสูงว่าภาคธุรกิจจะเพิ่มปริมาณการถือครองเงินสด เนื่องจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจหลังจากเกิดแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา
ข้อมูลเบื้องต้นของบีโอเจระบุว่า ยอดการถือครองเงินสดของบริษัทนอกภาคการเงินในไตรมาสที่สิ้นสุด ณ เดือนมี.ค. ขยายตัว 7.1% จากปีที่แล้ว
ส่วนสินทรัพย์ด้านการเงินที่ถือครองโดยบริษัทเอกชน ซึ่งรวมถึงเงินฝากและหุ้น ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.5% สู่ระดับ 797.85 ล้านล้านเยน ขณะที่ตัวเลขหนี้ด้านการเงินปรับตัวลดลง 4.4% มาอยู่ที่ระดับ 1,056.21 ล้านล้านเยน
นอกจากนี้ ภาคครัวเรือนของญี่ปุ่นก็เพิ่มการถือครองเงินสดเช่นกันหลังจากเกิดภัยพิบัติในเดือนมี.ค. โดยมีการถือครองสินทรัพย์การเงินในรูปเงินสดและเงินฝากเพิ่มขึ้น 1.5% เป็น 816.39 ล้านล้านเยน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน