นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดการผลิตรถยนต์ปลายปีนี้อาจจะเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ทั้งปี 1.8 ล้านคัน เนื่องจากคำสั่งซื้อในประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งเห็นได้ความต้องการของผู้บริโภคที่มีการจองซื้อล่วงหน้า ทั้งนี้เป็นผลดีจากราคาพืชผลเกษตรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งนี้เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศยังดีและเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้แม้ว่าบางอุตสาหกรรมจะได้รับผลกระทบจากสึนามิในประเทศญี่ปุ่นแต่ปัจจัยพื้นฐานของประเทศไทยยังดี
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ภาคเอกชนต้องการเห็นหลังการจัดตั้งรัฐบาลคือความต่อเนื่องของรัฐบาลซึ่งหากไม่ต่อเนื่องอาจส่งผลต่อภาคอุตสากรรมและเศรษฐกิจโดยรวมได้โดยเฉพาะความสมานฉันท์ถือเป็นสิ่งสำคัญ
"เราต้องการเห็นความ่สมานฉันท์เกิดขึ้นเพราะจะทำให้ประเทศพัฒนาได้ ผมไม่ได้ห่วงเรื่องประเด็นการเมืองเชื่อว่าจะเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยแต่ผมอยากให้รัฐบาลเร่งสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน ประชาชน ราชการ"
นอกจากนั้นภาคอุตสาหกรรมต้องการเพิ่มขีดความสามารถ การแข่งขัน ซึ่งถือเป็นบทบาทที่สำคัญที่ต้องดำเนินการโดยการผลักดันเรื่องขีดความสามารถโดยเฉพาะด้านแรงงานที่จำเป็นต้องมีการพัฒนาฝีมือแรงงานและอัตราค่าแรงซึ่งตอนนี้ประสิทธิภาพแรงงานของไทยชนะเพียงฟิลิปินส์เท่านั้น หากระยะกลางหรือยาวไม่ปรับตัวแก้ไขอาจทำให้เกิดความถดถอยได้
ส่วนกรณีที่คณะอนุกรรมการค่าจ้างขึ้นค่าจ้างแรงงานอีก 5-9 บาทต่อวัน นายพยุงศักดิ์ กล่าวว่า ต้องดูว่าการปรับขึ้นเป็นไปในรูปแบบไหนเพราะถ้าขึ้นทันทีจะส่งผลต่อต้นทุน