สำนักงานบริการกำกับดูแลด้านการเงินเกาหลีใต้ให้คำมั่นว่าจะปรับปรุงจุดอ่อนของโครงสร้างหนี้ภาคครัวเรือนของประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะไร้เสถียรภาพทางการเงิน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายกวอน ยุค ซี ผู้ว่าการสำนักงานบริการฯ กล่าวในที่ประชุมว่า ทางสำนักงานฯจะผลักดันให้มีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ภาคครัวเรือนเพื่อบรรเทาภาวะพลิกผันที่อาจจะเกิดขึ้นจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ได้มีการคาดการณ์ไว้ รวมทั้งควบคุมการขยายตัวของหนี้ภาคครัวเรือนไม่ให้สูงมากจนเกินไป
วงเงินสินเชื่อภาคครัวเรือนของเกาหลีใต้ ซึ่งครอบคลุมถึงเงินกู้จากแบงก์ต่างๆและสถาบันการเงินที่ไม่ใช่นาคาร รวมทั้งการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตนั้น อยู่ที่ 801.4 ล้านล้านวอน หรือ 7.43 แสนล้านดอลลาร์ เมื่อช่วงสิ้นเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงถึง 800 ล้านล้านวอนเป็นครั้งแรก
สินเชื่อภาคครัวเรือนของเกาหลีใต้อยู่ที่ 600 ล้านล้านวอนจนกระทั่งถึงช่วงสิ้นปี 2551 แต่เริ่มดีดตัวขึ้นมากนับตั้งแต่ที่เกิดวิกฤตการเงินโลก และช่วงที่ธนาคารกลางเกาหลีใต้ได้เริ่มลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงสู่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ที่ 2% เมื่อเดือนก.พ. 2552
นายกวอนกล่าวว่า ทางสำนักงานฯจะดำเนินการเพื่อลดอัตราการขยายตัวของหนี้ภาคครัวเรือนลง ด้วยการติดตามความเคลื่อนไหวของตัวเลขหนี้สินและควบคุมอัตราเงินกู้ต่อเงินฝาก
ทั้งนี้ ยอดการชำระหนี้ในภาคครัวเรือนของเกาหลีใต้ลดน้อยลง ซึ่งเงินกู้ส่วนใหญ่ประกอบด้วยเงินกู้อัตราดอกเบี้ยลอยตัวและเงินกู้ประเภทจ่ายดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวเมื่อครบกำหนด ซึ่งเป็นเงินกู้ประเภทที่อาจจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพด้านการเงินและเศรษฐกิจ