นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในวอลล์สตรีทคาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payrolls) ประจำเดือนมิ.ย.ของสหรัฐ ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันที่ 8 ก.ค.นั้น จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 90,000 ราย ซึ่งมากกว่าเดือนพ.ค.ที่เพิ่มขึ้นเพียง 54,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนมิ.ย.จะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 9%
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขจ้างงานที่เพิ่มขึ้นนั้น ยังไม่มากพอที่จะฉุดอัตราว่างงานให้ลดลงต่ำกว่าระดับ 8% ได้ โดยนายออสแตน กูลส์บี ประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจของสหรัฐกล่าวว่า “อัตราว่างงานอยู่ในระดับสูงอย่างที่ไม่สามารถยอมรับได้ และเศรษฐกิจจำเป็นต้องขยายตัวในอัตราที่เร็วขึ้นเป็นเพื่อกระตุ้นการสร้างงานใหม่ขึ้นมาแทนตำแหน่งงานที่สูญเสียไปในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ"
การปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องของอัตราว่างงานและการชะลอตัวของการจ้างงานในภาคเอกชนอาจมีแนวโน้มว่าจะส่งผลกระทบต่อคณะทำงานของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งกำลังพยายามหาทางสร้างโอกาสดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่สองในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปีหน้า ด้วยการสร้างงานและส่งเสริมเศรษฐกิจในประเทศ
ทั้งนี้ ปัจจุบัน จำนวนชาวอเมริกันที่ไม่มีงานทำมีอยู่ทั้งสิ้น 13.9 ล้านคน ซึ่งยังมากกว่าในช่วงก่อนภาวะเศรษฐกิจถดถอยเกือบสองเท่า