ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมซึ่งมีขึ้นเมื่อวันที่ 21-22 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการใช้นโยบายการเงินในระยะกลาง โดยคณะกรรมการบางคนระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่จะต้องใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ขณะที่คณะกรรมการอีกกลุ่มหนึ่งมองว่า เฟดอาจจำเป็นต้องยุติการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงิน เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น
รายงานการประชุมระบุว่า ในระหว่างการประชุมคณะกรรมการเอฟโอเอ็มซีในเดือนมิ.ย.นั้น คณะกรรมการบางคนกล่าวว่า "คณะกรรมการอาจจะมีการพิจารณาใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3 หรือ QE3 เพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆที่มีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจว่าจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร"
นอกจากนี้ คณะกรรมการเฟดบางคนกล่าวว่า หากการขยายตัวของเศรษฐกิจเชื่องช้าจนไม่สามารถฉุดอัตราว่างงานให้ลดลงได้ และหากอัตราเงินเฟ้อปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับค่อนข้างต่ำหลังจากอุตสาหกรรมการผลิตสะดุดลงชั่วคราว ก็ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่เฟดจะใช้มาตรการ QE3
ขณะเดียวกันมีคณะกรรมการเฟดบางคนแย้งว่า ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่สูงขึ้นสะท้อนให้เห็นว่า ภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐอยู่ในจังหวะเวลาที่คณะกรรมการเฟดควรจะเริ่มถอนนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อเร็วๆนี้
ในการประชุมเมื่อวันที่ 21-22 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น คณะกรรมการเอฟโอเอ็มซีมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่กรอบ 0-0.25% และให้โครงการซื้อพันธบัตรมูลค่า 6 แสนล้านดอลลาร์ หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง (QE2) หมดอายุลงในวันที่ 30 มิ.ย.ตามกำหนด
ส่วนการประชุมคณะกรรมการเอฟโอเอ็มซีครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 9 ส.ค.นี้ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน