กระทรวงพาณิชย์จีนได้เปิดเผยโควต้าการส่งออกแร่ธาตุหายากงวดที่ 2 ของปีนี้ ที่ระดับ 15,738 ตัน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เป่าโถว ไอออน แอนด์ สตีล กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองยักษ์ใหญ่ที่ตั้งอยู่ในมองโกเลียใน ได้รับโควต้าส่งออกแร่ธาตุหายากจำนวนมากที่สุดที่ 3,200 ตัน รองลงมาคือ ไชน่า มินเมทัลส์ คอร์ป ซึ่งได้รับโควต้า 1,327 ตัน
แร่ธาตุหายากคือกลุ่มแร่ 17 ชนิดในตารางธาตุ ซึ่งมีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีความซับซ้อน ได้แก่ แบตเตอรี่รถยนต์ กังหันลม ไปจนถึงอัลลอยที่ใช้ในยานอวกาศ
ปัจจุบัน จีนเป็นผู้จัดหาแร่ธาตุหายากในสัดส่วนกว่า 90% ของความต้องการทั่วโลก อย่างไรก็ดี การใช้แร่ธาตุดังกล่าวจำนวนมหาศาลมาเป็นเวลานานทำให้แหล่งทรัพยากรแร่ธาตุหายากของจีนหดตัวลงมาเหลือเพียง 1 ใน 3 ของโลก จากที่เคยมีการรายงานไว้ที่ 85% ในช่วงทศวรรษที่ 90
ทั้งนี้ การทำเหมืองแร่ธาตุหายากนั้นเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม จีนในฐานะที่เป็นผู้จัดหาแร่ธาตุหายากรายใหญ่ที่สุดในโลก ได้รับผลกระทบอย่างมากจากสภาพแวดล้อมที่เสื่อมโทรม
รัฐบาลจีนได้ประกาศนโยบายที่หลากหลายเพื่อควบคุมความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อม ได้แก่ การระงับการออกใบอนุญาตการทำเหมืองแร่ธาตุหายากใหม่ๆ การกำหนดเพดานการผลิต และโควต้าส่งออก ตลอดจนมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดมากขึ้น