ส.อ.ท.ฝากรัฐบาลใหม่เฟ้นรมต.นั่ง 3 กระทรวงศก.หลัก คลัง-พาณิชย์-อุตสาหกรรม

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday July 26, 2011 18:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ฝากถึงการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยว่า ต้องการให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับการจัดวางตัวบุคลากรที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีในกระทรวงเศรษฐกิจที่สำคัญ คือ กระทรวงการคลัง, กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงอุตสาหกรรม

โดยเฉพาะกระทรวงการคลัง ขอให้รัฐบาลให้ความสำคัญมากที่สุด เนื่องจากเป็นกระทรวงที่จะต้องใช้เงินงบประมาณในการบริหารประเทศ ขณะที่พรรคเพื่อไทยมีนโยบายประชานิยมที่จำเป็นต้องใช้เงินงบประมาณจำนวนมาก ดังนั้นรมว.คลัง คนใหม่จึงจำเป็นต้องเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้โดยส่วนตัวแล้วมองว่าทั้งนายโอฬาร ไชยประวัติ และนายวิชิต สุรพงษ์ชัย ถือว่ามีความเหมาะสมที่จะมานั่งในตำแหน่งนี้

ส่วนกระทรวงพาณิชย์ก็เป็นอีกหนึ่งกระทรวงที่ต้องให้ความสำคัญ เนื่องจากนโยบายของรัฐบาลใหม่จะต้องเข้าไปดูแลเรื่องราคาสินค้า ค่าครองชีพ รวมทั้งปัญหาราคาข้าว ดังนั้นหากได้รัฐมนตรีที่มีมุมมองในด้านการตลาดเข้ามาบริหารงานก็จะเป็นการดี เพราะท่ามกลางเศรษฐกิจที่ยังเติบโตไม่แข็งแรงนัก และมีการแข่งขันที่สูง ทำให้กระทรวงพาณิชย์จำเป็นต้องหายุทธวิธีใหม่ๆ เข้ามาใช้ในการบริหารงาน ซึ่งส่วนตัวแล้วมองว่านายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ก็ถือว่ามีความเหมาะสม อีกทั้งเคยทำหน้าที่ รมว.พาณิชย์มาก่อนแล้ว

ขณะที่กระทรวงอุตสาหกรรม มองว่าน่าจะมีรายชื่ออื่นที่มีความเหมาะสมมากกว่าที่ได้เคยมีข่าวออกมาตามหน้าหนังสือพิมพ์ ซึ่งอาจจะเป็นบุคคลในพรรคร่วมรัฐบาลที่มีความเหมาะสมก็เป็นไร ซึ่งกระทรวงนี้จำเป็นต้องดูแลเรื่องประสิทธิภาพในการผลิตภาคอุตสาหกรรม และที่สำคัญขณะนี้หลายฝ่ายได้ให้ความสนใจกับปัญหาภาคอุตสาหกรรมที่จะมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

นอกจากนี้ อีก 2 กระทรวงที่แม้ไม่ใช่กระทรวงด้านเศรษฐกิจ แต่ก็จำเป็นต้องให้ความสำคัญในระดับต้นๆ คือ กระทรวงแรงงาน และกระทรวงการต่างประเทศ เนื่องจากเชื่อว่าจากนี้ไปกระทรวงแรงงานอาจจะต้องรับมือกับปัญหาที่ภาคเอกชนบางแห่งต้องปิดกิจการ จากเหตุที่ไม่สามารถแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 300 บาท/วันได้ ซึ่งอาจทำให้มีการปลดคนงานหรือมีปัญหาการเรียกร้องค่าแรง ซึ่งเป็นเรื่องที่กระทรวงแรงงานจะต้องคอยรับมือ

ส่วนอีกกระทรวงคือ กระทรวงการต่างประเทศ ที่หลังจากมีการเปลี่ยนขั้วรัฐบาลมาเป็นพรรคเพื่อไทยแล้ว กระทรวงต่างประเทศจะต้องเปลี่ยนท่าทีในการเป็นมิตรกับประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศกัมพูชา เพราะในแต่ละปีไทยและประเทศเพื่อนบ้านมีมูลค่าการค้าระหว่างกันในจำนวนที่สูง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ