นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)กล่าว่า แนวโน้มการไหลเข้าของเงินทุนในระยะต่อไปยังคงผันผวนเหมือนที่เกิดขึ้นในช่วงต้นปีนี้ แต่ไม่ได้มีปัจจัยเป็นพิเศษ และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทยังไม่กระทบภาคเศรษฐกิจที่แท้จริงทั้งการบริโภคและการส่งออก ซึ่งทั้งสองด้านยังเติบโตได้ดี
ธปท.ยังยืนยันการดำเนินแนวนโยบายการเงินเพื่อรักษาเสถียรภาพด้านราคา เนื่องจากคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะหลุดกรอบ 0.5-3% ในช่วงไตรมาส 4/54 ซึ่งขณะนี้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานคาดการณ์ล่วงหน้าของภาคเอกชนยังอยู่ในระดับสูง โดยในเดือนมิ.ย.คาดว่าจะอยู่ในระดับ 3.8% ดังนั้น จึงต้องติดตามแนวโน้มว่าอัตราเงินเฟ้อจริงจะปรับตัวไปในทิศทางไหน หากมีการเปลี่ยนแปลงก็จะนำมาเป็นปัจจัยในการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ครั้งต่อไป
"นโยบายการเงินมีเป้าหมายชัดเจนอยู่แล้วว่าจะเดินไปทิศทางใดด้วยความโปร่งใส คือการดูแลเสถียรภาพด้านราคา เงินเฟ้อ แนวทางยังเป็นไปตามนี้อยู่ เพื่อทำให้เงินเฟ้ออยู่ในกรอบที่กำหนด"นายเมธี กล่าว
อย่างไรก็ตาม การปรับแก้ไขการใช้จ่ายงบประมาณจะไม่กระทบกับภาวะเศรษฐกิจไทยปี 54 เพราะมีช่วงเวลาในการเบิกจ่ายเงิน แต่ยอมรับว่าจะกระทบกับคาดการณ์เงินเฟ้อล่วงหน้าของภาคเอกชนได้
ธปท.ระบุว่าในเดือน มิ.ย.54 เสถียรภาพเศรษฐกิจในประเทศ อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงจากการทยอยส่งผ่านต้นทุนไปยังราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในช่วงที่อุปสงค์ขยายตัวต่อเนื่อง และจากการคาดการณ์เงินเฟ้อที่อาจสูงขึ้นจากการคาดการณ์แผนการใช้จ่าย ของภาครัฐในอนาคต อัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 4.06% และ 2.55% ตามลำดับ เสถียรภาพด้านต่างประเทศอยู่ในเกณฑ์ดี โดยเงินสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับมั่นคง