ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานว่าเดือนมิ.ย.54 ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจอยู่ที่ 53.1 และในอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 56.7 สะท้อนมุมมองของผู้ประกอบการต่อภาวะธุรกิจในปัจจุบันและอีก 3 เดือนข้างหน้าที่ดีขึ้น โดยอุปสรรคสาคัญในลำดับต้นของการดำเนินธุรกิจในเดือนนี้ ได้แก่ การปรับราคาสินค้าทำได้ยาก ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ และต้นทุนการผลิตสูง
ค่าดัชนีเดือนมิ.ย.สะท้อนมุมมองของผู้ประกอบการต่อภาวะธุรกิจที่ดีขึ้นจากเดือนก่อน อย่างไรก็ดี องค์ประกอบด้านต้นทุนยังอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ต่อเนื่องมาโดยตลอด สะท้อนแรงกดดันด้านต้นทุนที่ยังมีอยู่ แต่องค์ประกอบด้านคำสั่งซื้อที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 สะท้อนค่ำสั่งซื้อที่ลดลงในเดือนก่อน กลับมาอยู่ที 52.5 ในเดือนนี้เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของค่าสั่งซื้อในประเทศเป็นส่าคัญ
สำหรับในอีก 3 เดือนข้างหน้า ผู้ประกอบการเห็นว่าภาวะธุรกิจจะดีขึ้นจากปัจจุบัน สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในอีก 3 เดือนข้างหน้าที่ 56.7 โดยในองค์ประกอบย่อยของดัชนีฯ ยังคงแสดงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันเกือบทุกด้านยกเว้นด้านต้นทุน สะท้อนว่าผู้ประกอบการเชื่อว่าต้นทุนการผลิตในอนาคตจะปรับเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน
ในเดือนนี้ดัชนีสะท้อนการใช้จ่ายในประเทศอยู่ในเกณฑ์ดี ทั้งด้านค่าสั่งซื้อและการลงทุน โดยดัชนีคำสั่งซื้อในประเทศในปัจจุบันกลับมาอยู่เหนือระดับ 50 ที 50.8 หลังจากตกลงไปอยู่ต่ำกว่า 50 เป็นเวลา 2 เดือนติดต่อกัน ขณะทีในอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที 59.9 ส่าหรับด้านการลงทุน ดัชนีการลงทุนในปัจจุบันและอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่สูงกว่าระดับ 50 ต่อเนื่องที 57.4 และ 61.6 ตามลำดับ แสดงถึงความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการที่พร้อมจะขยายการลงทุน
สภาพคล่องของภาคธุรกิจในปัจจุบันลดลงจากเดือนก่อนเล็กน้อย โดยดัชนีสภาพคล่องในปัจจุบันอยู่ที่ 49.9 ขณะที่ในอีก 3 เดือนข้างหน้าผู้ประกอบการคาดว่าสภาพคล่องของธุรกิจจะปรับดีขึ้น สะท้อนจากดัชนี 3 เดือนข้างหน้าที่ระดับ 50.5 ทางด้านภาระดอกเบี้ยผู้ประกอบการเห็นว่าดอกเบี้ยจ่ายในปัจจุบันของภาคธุรกิจเพิ่มขึ้นและคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต
สะท้อนจากดัชนีภาระดอกเบี้ยปัจจุบันและดัชนีแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในอีก 3 เดือนข้างหน้าที่อยู่ต่ากว่าระดับ 50 ต่อเนื่อง สอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการได้รับสินเชื่อจากสถาบันการเงินเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน และส่วนใหญ่ได้รับสินเชื่อเพียงพอตามความต้องการ
ข้อจ่ากัดในการด่าเนินธุรกิจของผู้ประกอบการสามอันดับแรก ได้แก่ การปรับราคาสินค้าท่าได้ยาก (47.7%) ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ (43.3%) และต้นทุนการผลิตสูง (42.7%) อย่างไรก็ดี ข้อจำกัดเรื่องความไม่แน่นอนทางการเมืองและการขาดแคลนวัตถุดิบได้ผ่อนคลายลงในเดือนนี้